น่าน - ขบวนการรุกป่าเมืองน่านหนีป่าราบ หลังผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ จทบ.น่านนำทีมเจ้าหน้าที่ปกครอง ตำรวจ ป่าไม้ และทหาร บุกตรวจพื้นที่ พบไม้หวงห้ามถูกตัดเหี้ยน-ผืนป่าถูกแผ้วถางเผาทำลายรอทำสวนยางกว่า 500 ไร่ เชื่อมีนายทุนอยู่เบื้องหลัง
วันนี้ (24 มิ.ย.) พล.ต.วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกน่าน พร้อมด้วย พ.อ.ชัชวาลย์ กุลกุศล รอง ผอ.รมน.จังหวัดน่าน และ พ.ต.อ.สมพงษ์ สวนคร้ามดี รอง ผบก.ภ.น่าน ได้สนธิกำลังทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และป่าไม้ เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าเบญจพรรณรอยต่อบ้านผาสิงห์ ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน กับบ้านหาดผาขน ต.เมืองจัง อ.ภูเพียง หลังได้รับการแจ้งเบาะแสจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัด-ชักลากไม้หวงห้ามจำนวนมาก
ขณะเจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบ พบว่ามีกลุ่มผู้ต้องสงสัยได้พากันวิ่งหลบหนีอย่างโกลาหล โดยอาศัยความได้เปรียบจากความชำนาญพื้นที่หลบหนีไปได้
เมื่อตรวจสอบพื้นที่พบว่ามีไม้หวงห้ามทั้งไม้สัก ไม้แดง ไม้ประดู่ ไม้เต็งรัง อายุตั้งแต่ 30-50 ปี ถูกตัดโค่นเผาทำลายจำนวนมาก บนพื้นที่ประมาณ 400-500 ไร่ เพื่อขยายพื้นที่ปลูกยางพารา นอกจากนี้ยังพบกระท่อมเพิงพักคนงาน พร้อมอุปกรณ์พ่นสารเคมีอยู่ด้วย
พล.ต.วิจักขฐ์เปิดเผยว่า หลังได้รับแจ้งเบาะแส ได้ใช้อำนาจตามกฎอัยการศึกสนธิกำลังทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบทันที ซึ่งมีไม้หวงห้ามในผืนป่าเบญจพรรณแห่งนี้ถูกตัดโค่นเผาทำลายเพื่อปลูกยางพารากว่า 500 ไร่ เชื่อว่าลักษณะเช่นนี้จะเป็นของนายทุน เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนมากกว่า 10 ล้านบาทเพื่อจ้างคนงานมาตัดไม้แผ้วถางได้มากถึงขนาดนี้
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นพบว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่นอกเขตพื้นที่ป่าสงวน แต่ก็เป็นพื้นที่ซึ่งไม่สามารถออกเอกสารสิทธิใดๆ ได้ รวมถึงไม่ใช่พื้นที่ ส.ป.ก.ด้วย จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบเรื่องการถือครองที่ดินและเอกสารสิทธิแล้ว พร้อมทั้งสืบสวนหาเจ้าของที่ดินเพื่อให้เข้าชี้แจง
สำหรับพื้นที่ป่าเบญจพรรณกว่า 500 ไร่ที่ถูกตัดโค่นเผาทำลาย มีไม้หวงห้ามและไม้มีค่าทางเศรษฐกิจถูกทำลายจำนวนมาก สร้างความเสียหายแก่รัฐประมาณกว่า 50 ล้านบาท
