เชียงราย - พบ ส.ป.ก.โผล่กลางป่าอนุรักษ์ “เชียงของ” แถมเจอประดู่ต้นใหญ่ถูกกานรอบโคน ก่อนใช้ยาฆ่าหญ้าราดให้ยืนต้นตายกว่า 200 ต้น
นายธวัชชัย ภู่เจริญยศ ปลัดอาวุโสหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง อ.เชียงของ จ.เชียงราย นายวัชระ ศักดิ์เจริญ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ช.ร.8 (หาดไคร้) เชียงของ นายชุ่ม กิลัย กำนัน ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารพรานร้อย ทพ.3101 และผู้นำชุมชน ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติภูเขาห้วยไคร้น้อย ป่าบ้านลุง ม.3 ต.ศรีดอนชัย หลังได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบตัดไม้ทำลายป่า
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบป่าดังกล่าวมีไม้ประดู่ และไม้เล็กอื่นๆ อุดมสมบูรณ์ แต่ต้นประดู่ถูกกานรอบโคนต้น และมีร่องรอยทาด้วยสารเคมีประเภทยาฆ่าหญ้าจนยืนต้นใกล้ตายหลายต้น และมีต้นที่แห้งตายแล้วรวมกว่า 200 ต้น เมื่อตรวจสอบรอบป่าพบหลักฐานยาฆ่าหญ้า จำนวน 1 แกนลอนด้วย
จากการตรวจสอบยังพบว่า ป่าสงวนแห่งชาติดังกล่าวมีชาวบ้านรายหนึ่งได้เข้าแจ้งต่อเจ้าหน้าที่เอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า เป็นผู้ที่มีสิทธิในการเข้าทำกิน และถือเอกสาร ส.ป.ก.4-01 เลขที่ 7837 แปลงที่ 6 กลุ่มที่ 2957 ออกโดยสำนักงาน ส.ป.ก.เชียงราย ตั้งแต่ปี 2543
เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้การตรวจพิกัดที่ดินพบว่า อยู่ทับกับพื้นที่ป่าไม้ประดู่ที่ถูกทำลายดังกล่าวด้วย และเป็นที่น่าสังเกตว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นป่าไม้ใหญ่ แต่กลับออกเอกสาร ส.ป.ก.ได้ ขณะที่ผู้ครอบครองก็ไม่มีการเข้าไปแผ้วถาง หรือทำการเกษตรตามหลักของ ส.ป.ก.4-01 แต่อย่างใด
นายธวัชชัย กล่าวว่า ตามปกติก็ไม่สามารถเข้าตัดไม้ในเขตป่าสงวนแห่งชาติได้อยู่แล้ว จึงถือเป็นการกระทำที่อุกอาจ และไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แต่กรณีนี้กลับมีชาวบ้านนำเอกสาร ส.ป.ก.4-01 มาแสดงอ้างสิทธิในการเข้าทำกิน ถือว่าแปลกมาก จึงจะตรวจสอบว่าพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่าไม้ที่มีต้นไม้ขนาดใหญ่ และอยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ชัดเจนเช่นนี้ ชาวบ้านได้เอกสารใหม่นี้มาได้อย่างไร เพราะตามหลักแล้วไม่สามารถออกเอกสารใดๆ มาทับได้
นอกจากนี้ จะตรวจสอบพื้นที่ข้างเคียงอีกด้วย เพราะพบว่าถูกบุกรุกแล้วหลายแปลง หากพบว่ามีการรุกผืนป่าก็จะต้องยึดคืนทั้งหมด