แดงเชียงรายคนสุดท้ายเข้าค่ายรายงานตัวแล้ว หลังหายหน้าไปนาน

เชียงราย - แกนนำเสื้อแดงเชียงรายคนสุดท้ายเดินทางเข้าค่ายรายงานตัวต่อทหารแล้วหลังหายหน้าไปจากพื้นที่มานาน เผยก่อนหน้านี้ถูกเรียกรายงานตัว พัน.ร.มทบ.11 และถูกคุมตัว 7 วันมาแล้ว ยันเห็นด้วย คสช.ยุติแตกแยก แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการ

วันนี้ (25 มิ.ย.) นายธนิต บุญญนสินิเกษม อายุ 56 ปี แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง จ.เชียงราย ซึ่งเคยเคลื่อนไหวในพื้นที่ต่อเนื่อง ได้เข้ารายงานตัวต่อกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดทหารบกเชียงราย (กกล.รส.จทบ.ชร.) ที่ค่ายเม็งรายมหาราช จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ให้กลับบ้าน โดยไม่ได้ควบคุมตัวแต่อย่างใด

นายธนิตกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนถูกเรียกให้ไปรายงานตัวที่ พัน.ร.มทบ.11 กรุงเทพฯ วันที่ 14 มิ.ย. เมื่อได้รับแจ้งก็รีบเดินทางไป และถูกควบคุมสถานที่เป็นเวลา 7 วัน ซึ่งก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากเจ้าหน้าที่ทหาร กระทั่งวันที่ 20 มิ.ย.ก็เดินทางกลับภูมิลำเนาตามเงื่อนไขที่ว่า เมื่อไปถึง 3 วันแล้วให้เข้ารายงานตัวที่กองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จ.พิษณุโลก แต่ต่อมาแจ้งให้ย้ายเข้ารายงานตัวที่ค่ายเม็งรายมหาราชในวันนี้แทน

ตนเข้าร่วมเป็นคนเสื้อแดง หลังรวมตัวกันไปกินไก่ทอดที่ร้านเคเอฟซีในห้างสรรพสินค้าในจ.เชียงราย จากนั้นก็พัฒนาการไปสู่การใช้เสื้อแดงเป็นสัญลักษณ์เพื่อการเคลื่อนไหว กระทั่งหลังปี 2553 ตนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆ อีกเลย ส่วนกระแสข่าวกองกำลังติดอาวุธนั้นก็เป็นเรื่องเล่าลือกัน ตนไม่ได้รู้เห็นด้วย ขณะที่คดีติดป้ายแบ่งแยกดินแดนล้านนาตนก็ไม่ได้ทราบเช่นกัน แต่ก็สันนิษฐานว่าคนที่ทำลงไปอาจอยากระบายอารมณ์จากความอัดอั้นตันใจ โดยแสดงออกเป็นสัญลักษณ์ คงไม่ได้ตั้งใจจะแบ่งแยกดินแดนจริงๆ หรือบางครั้งอาจถึงขั้นถูกใส่ร้ายป้ายสี

ทั้งนี้ ตนมีทัศนคติที่ดีต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และเห็นว่าที่ผ่านมาเกิดความขัดแย้งอย่างหนักระหว่างฝ่ายต่างๆ ในสังคมไทย ทาง คสช.ก็ออกมาหยุดวิกฤตดังกล่าว เพียงแต่ตนไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่ใช้เท่านั้น

ทั้งนี้ นายธนิตแทบจะเรียกได้ว่าเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงรายที่เข้ารายงานตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้แกนนำเกือบทุกคนได้ถูกเรียกรายงานตัวหรือบางคนถูกดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนกฎอัยการศึกไปแล้ว