xs
xsm
sm
md
lg

คนงานกรมศิลปากรพบพระพุทธรูปสำริดจมดินลักษณะยืนค้ำพระนอนวัดโลกยสุธาราม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


พระนครศรีอยุธยา - คนงานกรมศิลปากรที่กำลังขุดตกแต่งเพื่อบูรณะซ่อมแซมพระนอน และเจดีย์วัดโลกยสุธาราม พบพระพุทธรูปสำริดจมดินลักษณะยืนค้ำพระนอนลึก 1 เมตร ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา เชื่อเป็นการค้ำในสมัยจอมพล ป.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันนี้ (24 มิ.ย.) นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าไปตรวจสอบบริเวณพระนอน วัดโลกยสุธาราม ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา หลังจากที่มีรายงานการขุดพบเศียร และองค์พระพุทธรูปใต้องค์พระนอน

เมื่อไปถึงบริเวณที่มีการพบพระพุทธรูปนั้นอยู่ช่วงที่เป็นด้านใต้หน้าแข้งขององค์พระนอน ซึ่งคนงานกรมศิลปากร กำลังมีการขุดตกแต่งเพื่อบูรณะซ่อมแซมพระนอน และเจดีย์โดยรอบองค์พระนอน โดยเศียรพระพุทธรูปเป็นเนื้อสำริด มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ฟุต หักออกจากตัวองค์พระ ซึ่งจมลงไปในแนวตั้งลงไปในลักษณะค้ำองค์พระนอน เมื่อนำขึ้นมาพบตัวองค์พระสูงประมาณ 1 เมตร จึงได้นำขึ้นไปไว้ที่พิพิธภัณท์สถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า พระนอนวัดโลกยสุธาราม เป็นพระเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา ขนาดยาว 42 เมตร และสูงจากพิ้น 8 เมตร ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา มีภาคเอกชนบริจาคเงิน จำนวน 1 ล้านบาท เพื่อให้กรมศิลปากรบูรณะด้วยการเสริมคานที่ฐานล่างทำให้ช่วงที่สอดคานเข้าไปกระแทกกับเศียรองค์พระหัก ซึ่งไม่ปรากฏการใช้องค์พระค้ำที่ฐานล่างองค์พระมาก่อน เข้าใจว่าน่าจะเป็นช่วง พ.ศ.2500 จอมพล ป.พิบูลสงคราม ได้ทำการบูรณะองค์พระ อาจจะมีการนำองค์พระฝังลงไปค้ำองค์พระตามความเชื่อ อย่างไรก็ตาม ก็จะนำไปตรวจสอบอายุขององค์พระต่อไป

นางศริสา จินดาวงษ์ ผู้อำนวยการพิพิธภัณท์สถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา กล่าวว่า ไม่เคยพบพระพุทธรูปในลักษณะของการนำไปฝังใต้ฐานพระนอนมาก่อน เท่าที่ตรวจสอบเบื้องต้นพระพุทธรูปองค์นี้น่าจะเป็นศิลปะสมัยสุโขทัย เป็นสำริดทั้งองค์ แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดว่าเป็นปางห้ามญาติหรือธุดงค์ อย่างไรก็ตาม จะทำความสะอาดตามขั้นตอนเพื่อเก็บรักษาเอาไว้

อนึ่ง สำหรับวัดโลกยสุธาราม ตั้งอยู่ที่ ต.ประตูชัย อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ทางด้านหลังพระราชวังหลวง และโรงเรียนประตูชัย ใกล้กับวัดวรโพธิ์ และวัดวรเชษฐาราม

วัดโลกยสุธาราม สันนิษฐานว่าได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น ในรัชสมัยสมเด็จพระนครินทราธิราช พระราชบิดาเจ้าสามพระยา ราว พ.ศ.1995 วัดนี้มีพระพุทธไสยาสน์ ปางไสยาสน์ ที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเมืองอยุธยา ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ก่ออิฐถือปูน มีความยาว 42 เมตร และสูง 8 เมตร พระพักตร์หันไปทางทิศเหนือ ที่พระเศียรมีดอกบัวรองรับ พระบาทซ้อนกันเป็นมุมฉาก นิ้วพระบาทยาวเท่ากัน มีดอกบัวเกยซ้อนรองรับพระเศียรแทนพระเขนย สันนิษฐานว่าแต่เดิมเป็นพระพุทธรูปไม่ทรงเครื่อง แต่การบูรณะใน พ.ศ.2499 คงมีการแก้พระเศียรเป็นอย่างพระพุทธรูปทรงเครื่อง รอบองค์พระมีเสาอิฐ 8 เหลี่ยม รวม 24 ต้น ซึ่งแต่เดิมคงจะมีการสร้างวิหารครอบพระพุทธไสยาสน์ แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้พังทลายลงเมื่อใด

พระพุทธไสยาสน์องค์นี้ได้รับการขุดแต่งโดยโรงงานสุรา ร่วมกับกรมศิลปากร เมื่อปี พ.ศ.2497 และต่อมา ในปี พ.ศ.2532 คุณหญิงระเบียบ ธำรงนาวาสวัสดิ์ และครอบครัว ได้บูรณะพระพุทธไสยาสน์เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ นาย ธำรง และพลเรือตรีถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี

กำลังโหลดความคิดเห็น