ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- แกนนำ “สกย.” บุก ทภ. 2 จี้ “คสช.” แก้ปัญหากองทุนฟื้นฟูฯ เหตุกรรมการหมดวาระเลือกตั้งไม่ได้เพราะติดประกาศ คสช. ส่งผลเกษตรกรเดือดร้อนทั่วประเทศ พร้อมเสนอแนวทางปฏิรูป นายกฯ-ผู้ว่าฯ มาจากเลือกตั้งโดยตรงและอยู่ในตำแหน่งวาระเดียว ส่วนการเกษตรให้โละหนี้เกษตรกรทั้งหมด จัดสรรที่ทำกินให้ครอบครัวละ 15 ไร่ ฟื้นฟูอาชีพครบวงจรมุ่งสู่เกษตรอินทรีย์ และวิถีการผลิตแบบพอเพียง พึ่งตนเอง
วันนี้ (24 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมกองทัพน้อยที่ 2 ค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) อ.เมือง จ.นครราชสีมา กลุ่มสมัชชาเกษตรกรรายย่อยกว่า 100 คน นำโดย นายนคร ศรีวิพัฒน์ เลขาธิการสมัชชาเกษตรกรรายย่อย (สกย.) ได้เข้ายื่นหนังสือผ่าน พ.อ.ชาญชัย ว่านเครือ รองเสนาธิการกองทัพน้อยที่ 2 ในฐานะเลขานุการคณะทำงานศูนย์ปรองดองเพื่อการปฏิรูปกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 2 (ศปป.กอ.รมน.ภ.2) ถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)
เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร สมาชิกองค์กรเกษตรกร ที่ขึ้นทะเบียนกับกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ด้วยการให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร พร้อมเสนอแนวทางการปฏิรูปเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย โดยเครือข่ายองค์กรเกษตรกรทั่วประเทศ
นายนครเปิดเผยว่า ตัวแทนเกษตรกรทั่วประเทศที่เดินทางมาครั้งนี้เพื่อต้องการให้ คสช. เข้ามาแก้ไขปัญหาของกองทุนฟื้นฟูฯ เนื่องจากขณะนี้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ ได้สิ้นสุดวาระลงเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.ที่ผ่านมา และการได้มาซึ่งคณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรนั้น ผู้แทนเกษตรกรต้องได้มาจากการเลือกตั้งของสมาชิกทั่วประเทศ แต่เมื่อเกิดรัฐประหารโดย คสช.จึงไม่สามารถเลือกตั้งได้ ทำให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาเกษตรกรผ่านกองทุนฟื้นฟูฯ โดยเฉพาะเรื่องปัญหาหนี้และการฟื้นฟูอาชีพหยุดชะงัก ส่งผลให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกที่มีอยู่ทั่วประเทศได้รับความเดือดร้อน
ฉะนั้นจึงต้องการให้ คสช.เข้ามาแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว โดยเห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ จัดให้มีการเลือกตั้งผู้แทนเกษตรกรได้ หรือให้เห็นชอบออกคำสั่งให้คณะกรรมการกองทุนฟื้นฟูฯ และคณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการจัดการหนี้ ชุดหมดวาระไปรักษาการไปพลางก่อนจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ เพื่อให้กองทุนฟื้นฟูฯ สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรสมาชิกต่อไปได้
นายนครกล่าวต่อว่า ส่วนข้อเสนอแนวทางการปฏิรูปประเทศไทยนั้น ทางเครือข่ายองค์กรเกษตรกรทั่วประเทศได้เสนอไปหลายเรื่อง แต่ที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับเกษตรกรทุกคน คือ การปฏิรูปโครงสร้างการบริหารประเทศและการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เช่น นายกรัฐมนตรีต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน อาจสังกัดหรือไม่สังกัดพรรคการเมืองก็ได้ และให้อยู่ในตำแหน่งได้วาระเดียว เช่นเดียวกับผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาจากการเลือกตั้งของประชาชนและอยู่ในตำแหน่งวาระเดียว เป็นต้น
สำหรับการปฏิรูปภาคการเกษตร เสนอให้ยกเลิกหนี้เกษตรกรจากสถาบันการเงินและสถาบันเกษตรกรทั่วประเทศ, ปรับปรุงการปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศเพื่อจัดสรรที่ทำกินให้เกษตรกรที่ยังไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินอย่างน้อยครอบครัวละ 15 ไร่, หาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 1 ต่อปี เพื่อการฟื้นฟูอาชีพแบบครบวงจร, ทุกชุมชนต้องมีแหล่งผลิตพลังงานของตนเอง และกำหนดภาษีการนำเข้าสารเคมี ปุ๋ยเคมีที่ใช้ในการเกษตรในอัตราสูง เพื่อนำมาจัดตั้งเป็นกองทุนพัฒนาการเกษตรแบบเกษตรอินทรีย์ และสร้างวิถีการผลิตแบบพอเพียง พึ่งตนเอง เป็นต้น
