ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ประกอบการเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนโคราชเดือดร้อนหนัก หลังถูกไล่จับลิขสิทธิ์ ทำออเดอร์หาย รวมตัวบุกร้องหอการค้าฯ ช่วย เผย 2 เดือนถูกจับไปแล้วหลายราย โดยเฉพาะลูกค้าต่างจังหวัดที่ซื้อเครื่องปั้นรูปสตรอเบอร์รีไปขายต่อ ทำยอดขายหายไปกว่า 5 ล้านบาท ลามไปเครื่องปั้นลักษณะอื่นซบเซาตาม
เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (17 มิ.ย.) ที่ห้องประชุมชั้น 4 หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ถ.สุรนารายณ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ประกอบการเครื่องปั้นดินเผาด่านเกวียนกว่า 200 คน นำโดย นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน ได้เดินทางเข้าพบนายจักริน เฉิดฉาย ประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ให้ช่วยเหลือหลังได้รับผลกระทบจากกลุ่มที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เครื่องปั้นดินเผารูปสตรอเบอร์รีไล่จับ โดยเฉพาะลูกค้าที่ซื้อสินค้าจากด่านเกวียนทำให้ยอดขายซบเซา และลูกค้ายกเลิกออเดอร์หลายราย เสียหายกว่า 5 ล้านบาท ผู้ประกอบการได้ยื่นหนังสือเปิดผนึกถึงประธานหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา
นางฝน คงศักดิ์ตระกูล นายกเทศมนตรีตำบลด่านเกวียน เปิดเผยว่า เทศบาลตำบลด่านเกวียนได้รับการร้องเรียนจากผู้ประกอบการผลิตและขายเครื่องปั้นดินเผาในเขต ต.ด่านเกวียน และ ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา และพ่อค้าคนกลางซึ่งรับซื้อสินค้าไปจากผู้ผลิตเครื่องปั้นดินเผาว่าได้รับความเดือดร้อนจากกรณีผู้รับมอบอำนาจของนายจารุ นอกกระโทก และพวกประมาณ 10-15 คน อ้างความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ ชื่อ ผลงานกระเช้าแบบแขวนทรงของสตรอเบอร์รีครึ่งใบ ตามหนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลลิขสิทธิ์ ทะเบียนเลขที่ ศ 2.5165 ได้เข้าทำการจับกุมผู้ขายกระเช้าแบบแขวนดังกล่าว
ทั้งนี้ อ้างว่าเป็นการขายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ ซึ่งพฤติกรรมของกลุ่มคนดังกล่าวจะทำทีเข้าไปซื้อเครื่องปั้นดินเผากระเช้าแบบแขวนฯ และขอใบเสร็จรับเงินจากผู้ขาย จากนั้นจะทำการจับกุมโดยจะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ไปด้วย ส่วนใหญ่มักเข้าจับกุมช่วงวันหยุดที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากๆ เริ่มมีการจับกุมมาตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมาที่หมู่บ้านหนองโสน ต.ท่าอ่าง อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา มีผู้ประกอบการถูกจับกุมไป 4 ราย และมีการเรียกค่าเสียหายอ้างว่าเป็นค่าปรับรายละ 10,000 บาท
จากนั้นกลุ่มของนายจารุได้ออกตระเวนจับกุมผู้ที่ซื้อเครื่องปั้นดินเผาจากด่านเกวียนไปขายจำนวนหลายรายในต่างจังหวัด ทั้ง จ.หนองคาย, อุดรธานี, ขอนแก่น, ปทุมธานี, นนทบุรี เป็นต้น และมีการเรียกรับเงินรายละ 10,000-50,000 บาท แต่มีหลายรายที่ต่อสู้คดีและเรื่องอยู่ที่ชั้นพนักงานสอบสอบ
เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ส่งผลให้มีการยกเลิกออเดอร์ที่สั่งไว้ทั้งหมด เนื่องจากเกรงกลัวไม่กล้ามาซื้อเครื่องปั้นดินเผาทุกชิ้นที่ผลิตและวางขายในพื้นที่ 2 ตำบลไปขายอีก เนื่องจากไม่รู้ว่าจะถูกจับลิขสิทธิ์อีกเมื่อใด ทำให้ผู้ประกอบการในพื้นที่ 2 ตำบลกว่า 1,000 รายได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่าความเสียหายจากการยกเลิกออเดอร์ไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท บางรายโดนเป็นหมื่นชิ้นก็มี
อย่างไรก็ตาม หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ผู้ที่ประกอบกิจการผลิตเครื่องปั้นดินเผาอยู่ต่อไปไม่ได้จึงรวมตัวกันเดินทางมาขอความช่วยเหลือจากหอการค้าจังหวัดนครราชสีมาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อไป
นางฝนกล่าวว่า เบื้องต้นเทศบาลฯ ได้ทำหนังสือขอตรวจสอบความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาแล้ว ได้รับหนังสือแจ้งกลับว่า หนังสือรับรองการแจ้งข้อมูลดังกล่าวไม่ก่อให้เกิดสิทธิใดๆ ตามกฎหมาย และไม่ใช่เอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์แต่อย่างใด ฉะนั้นการกระทำของกลุ่มบุคคลดังกล่าวสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประกอบการอย่างมาก จึงขอฝากไปยังประชาชนว่าสามารถซื้อสินค้าจากด่านเกวียนไปจำหน่ายหรือไปไว้ที่บ้านได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์แต่อย่างใด
