กำแพงเพชร - ฝ่ายปกครอง ทหาร ตำรวจเมืองกล้วยไข่นำมวลชน กปปส.-นปช.กำแพงเพชร ร่วมพิธีบวงสรวงพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ พร้อมจับมือสร้างความปรองดองสมานฉันท์
นายสุรพล วาณิชเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร พล.ต.ต.ประเสริฐ กาฬรัตน์ ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร พ.อ.ณรงค์ฤทธิ์ ปาณิกบุตร รองผู้บังคับการทหารราบที่ 14 พัน.3 ค่ายวชิรปราการ จ.ตาก พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา มวลชน กปปส. นปช. ร่วมพิธีสักการะ และบวงสรวงพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศรวมหาราช เมื่อบ่ายวานนี้ (10 มิ.ย.) ที่หน้าลานอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย สิริจิตอุทยาน เพื่ออัญเชิญรูปหล่อจำลองขึ้นประดิษฐาน ณ แท่นพิธีชั่วคราว
นายสุรพลเปิดเผยว่า ประเทศไทยมีการปกครองโดยพระมหากษัตริย์มาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่สมัยสุโขทัย กรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี และมาถึงกรุงรัตนโกสินทร์ พระมหากษัตริย์ของไทยได้ทรงบำบัดทุกข์บำรุงสุขของประชาชน ทรงทำนุบำรุงบ้านเมืองให้มีความเจริญก้าวหน้าในด้านต่างๆ มากมาย
โดยเฉพาะสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกอบกู้เอกราชของชาติด้วยความกล้าหาญและเสียสละ ทำให้ประเทศไทยสามารถรักษาเอกราชไว้ได้จนทุกวันนี้ ขณะที่ชาวกำแพงเพชนในอดีตมีความสมัครสมาน สามัคคีเป็นอย่างยิ่ง เห็นได้จากโบราณสถาน เช่น กำแพงเมือง คูเมือง ป้อมปราการ และวัดวาอาราม ซึ่งการจะก่อสร้างได้ขนาดนี้จะต้องใช้ความสามัคคีของคนหมู่มากจึงจะสามารถรังสรรค์สิ่งเหล่านี้ขึ้นมาได้ อีกทั้งอดีตเมืองกำแพงเพชรยังเป็นเมืองหน้าด่านทั้งสมัยสุโขทัย และสมัยกรุงศรีอยุธยา จึงต้องรับศึกสงครามอยู่เสมอ ความสามัคคีจึงเป็นสิ่งที่สำคัญยิ่ง
“ปัจจุบันชาวกำแพงเพชรก็ยังมีความสมัครสมานสามัคคี ถึงจะมีแนวความคิดที่แตกต่างกันบ้าง แต่เราก็อยู่กันอย่างสันติตลอดมา โอกาสนี้เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และความสามัคคีของชาวกำแพงเพชร จึงได้เชิญชวนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชน รวมถึง นายสุวัจน์ วัฒนศิริ ประธาน กปปส. และแนวร่วม นายบุญช่วย ศิริสาร ประธาน นปช.กำแพงเพชร พร้อมด้วยมวลชน ร่วมกันกล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณต่อเบื้องพระบรมรูป ว่าจะเทิดทูน และรักษาไว้ซึ่งสถาบันสำคัญของชาติ จะร่วมมือกับทางราชการ สร้างความปรองดองสมานฉันท์ ความสามัคคี และรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง จะร่วมมือกับทุกภาคส่วน พัฒนาประเทศชาติ เพื่อความอยู่ดีกินดี ของประชาชนชาวไทย”
เมื่อเสร็จสิ้นการกล่าวคำถวายสัตย์แล้ว แกนนำ กปปส.และ นปช.ร่วมกันจับมือสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยไม่มีการแบ่งสีเสื้อ