ตร.ล่าแฟนหนุ่มชาวอเมริกันฆ่าแฟนสาวหนีกบดานอุดรธานีได้แล้ว

ศูนย์ข่าวศรีราชา - สะเทือนขวัญ ฆ่าสาวนิรนามยัดถุงดำ ล่าสุด ตำรวจตามล่าลากคอแฟนหนุ่มชาวอเมริกันมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว หลังหนีกบดานที่อุดรธานี

จากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี พบศพหญิงสาวถูกฆ่าตายแล้วยัดศพใส่ถุงดำทิ้งไว้บนชั้นดาดฟ้าของร้านอาหารลาเปอติทปลาเนท เลขที่ 20/44 ข้างตึกคอมพัทยาใต้ ถนนพัทยาใต้ หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าว และรู้ชื่อผู้ตายคือ น.ส.อนุสรา ปาจะ หรือน้ำ อายุ 19 ปี

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้สอบสวนพยานปากเอกซึ่งเป็นเพื่อนสาวของ น.ส.อนุสรา ทำให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.อนุสรา กับเพื่อนๆ ทั้งชาวไทย และต่างชาตินัดหมายจะไปเที่ยวที่เกาะล้าน โดย น.ส.อนุสรา ได้กลับไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องพักแล้วให้เพื่อนสาวคนดังกล่าวรออยู่ด้านล่างก่อนที่พยานเห็น นายทิม เดินลงมาชั้นล่างด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลนไม่ยอมพูดจากับใครก่อนหายตัวไปเฉยๆ

หลังเวลาผ่านไปนานผิดสังเกต เพื่อนจึงเดินขึ้นไปตามบนห้องแต่ไม่พบตัว จึงแจ้งญาติให้เข้าแจ้งความต่อตำรวจเพื่อให้ช่วยออกตามหา กระทั่งมาพบศพหญิงสาวถูกฆ่ายัดถุงดำอยู่บนชั้นดาดฟ้า ห่างจากห้องพักของ น.ส.อนุสรา เพียง 2 คูหา ซึ่งเพื่อนสาวระบุว่า ศพที่พบน่าจะเป็น น.ส.อนุสรา เพราะจำกำไลข้อเท้าได้

จากการสืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่องทำให้ทราบว่า ผู้ที่ลงมือก่อเหตุ คือ MR.STEVEN TIMOTHY ROWE อายุ 49 ปี สัญชาติอเมริน ทำงานอยู่ที่สถาบันสอนภาษาและคอมพิวเตอร์ (ECC) ที่เซ็ลทรัล พระราม 2 หลังก่อเหตุได้ลาออกจากที่ทำงาน แล้วหลบหนีไปที่ จ.อุดรธานี จึงได้ออกติดตามจับกุมตัว ส่วนสาเหตุการสังหารเนื่องมาจากความหึงหวง

ล่าสุด วันนี้ (7 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ได้นำหมายศาลจังหวัดพัทยา ที่ จ.199/ 2557 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2557 ในข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลอบฝัง ซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิดการตายหรือเหตุแห่งการตาย เข้าจับกุมตัว MR.STEVEN พร้อมของกลางเศษชิ้นส่วนหนังสือเดินทางของ น.ส.อนุสรา ปาจะ ที่ถูกตัดทำลายห่อด้วยระดาษทิชชู

ทั้งนี้ สามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณซอยพันธมิตร ใน จ.อุดรธานี เบื้องต้นจากการสอบสวน MR.STEVEN ที่อยู่ในอาการเครียด และบางครั้งพยายามที่จะฆ่าตัวตาย ยังคงให้การปฏิเสธข้อกล่าวหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงต้องควบคุมตัวไว้ก่อน และจะได้ทำการสอบสวนดำเนินคดีต่อไป