“ประวิต” ระบุมติที่ประชุมสภาคณบดีครุศาสตร์ฯ เตรียมเพิ่มนำหนักคะแนนสอบภาษาอังกฤษเป็นเกณฑ์คัดเลือก นศ.เข้าโครงการครูมืออาชีพ ปีการศึกษา 57 ชี้ปัจจุบันทักษะภาษาอังกฤษครูยังไม่ดีพอ
รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ในฐานะประธานที่ประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย กลุ่ม 16 สถาบัน เปิดเผยถึงผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาภาคภาษาอังกฤษ English Proficiency Index (EF EPI 2013) ประจำปี 2556 โดยสถาบันสอนภาษาระดับโลก Education First ซึ่งพบว่าเด็กไทยมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษอยู่ในกลุ่มผลสัมฤทธิ์ค่อนข้างต่ำว่า ปัญหาใหญ่ของการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษของไทยคือ ครูสอนโดยเน้นแกรมม่า ไม่เน้นสนทนา ส่งผลให้เด็กรู้สึกเบื่อและเมื่อต้องใช้ภาษาอังกฤษก็ใช้ไม่ได้ ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเวลาที่ใช้ในการเรียนวิชานี้กับเด็กต่างชาติ ก็พบว่าเด็กไทยไม่ได้เรียนน้อยไปกว่าเด็กต่างชาติเลย
“วิธีสอนของครูทุกวันนี้ยังไม่ถูกทาง ซึ่งเราต้องสร้างสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้เป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด และต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยเฉพาะเวลานี้ เด็กเกือบทุกคนเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตอยู่แล้วควรต้องดึงช่องทางนี้มาเป็นตัวช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษ เช่น เนื้อหาที่จะใส่ในแท็บเล็ตที่แจกให้แก่นักเรียนต้องใส่สื่อที่เป็นภาษาอังกฤษเยอะๆ เพราะเด็กจะเรียนรู้จากครูอย่างเดียวไม่พอ” รศ.ดร.ประวิต กล่าว
รศ.ดร.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในการประชุมร่วมกันระหว่างคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ 16 สถาบัน เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมีมติว่าหลังจากนี้การคัดเลือกนักศึกษาเข้าเรียนต่อคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์จะต้องให้นำหนักคะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาด้วย เพราะปัจจุบันทักษะทางด้านภาษาอังกฤษของครูยังไม่ดีพอ ทั้งนี้ จะเริ่มนำร่องในการคัดเลือกครูตามโครงการครูมืออาชีพ ปีการศึกษา 2557 ส่วนรายละเอียดของคะแนนสอบจะเป็นอย่างไรนั้นต้องหารือกันอีกครั้ง
รศ.ดร.ประวิต เอราวรรณ์ คณบดีคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) ในฐานะประธานที่ประชุมสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย กลุ่ม 16 สถาบัน เปิดเผยถึงผลการทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาภาคภาษาอังกฤษ English Proficiency Index (EF EPI 2013) ประจำปี 2556 โดยสถาบันสอนภาษาระดับโลก Education First ซึ่งพบว่าเด็กไทยมีความสามารถด้านภาษาอังกฤษอยู่ในกลุ่มผลสัมฤทธิ์ค่อนข้างต่ำว่า ปัญหาใหญ่ของการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษของไทยคือ ครูสอนโดยเน้นแกรมม่า ไม่เน้นสนทนา ส่งผลให้เด็กรู้สึกเบื่อและเมื่อต้องใช้ภาษาอังกฤษก็ใช้ไม่ได้ ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบเวลาที่ใช้ในการเรียนวิชานี้กับเด็กต่างชาติ ก็พบว่าเด็กไทยไม่ได้เรียนน้อยไปกว่าเด็กต่างชาติเลย
“วิธีสอนของครูทุกวันนี้ยังไม่ถูกทาง ซึ่งเราต้องสร้างสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนให้เป็นภาษาอังกฤษมากที่สุด และต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยเฉพาะเวลานี้ เด็กเกือบทุกคนเรียนรู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ และแท็บเล็ตอยู่แล้วควรต้องดึงช่องทางนี้มาเป็นตัวช่วยพัฒนาภาษาอังกฤษ เช่น เนื้อหาที่จะใส่ในแท็บเล็ตที่แจกให้แก่นักเรียนต้องใส่สื่อที่เป็นภาษาอังกฤษเยอะๆ เพราะเด็กจะเรียนรู้จากครูอย่างเดียวไม่พอ” รศ.ดร.ประวิต กล่าว
รศ.ดร.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ในการประชุมร่วมกันระหว่างคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์ 16 สถาบัน เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ประชุมมีมติว่าหลังจากนี้การคัดเลือกนักศึกษาเข้าเรียนต่อคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์จะต้องให้นำหนักคะแนนสอบวิชาภาษาอังกฤษมาเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาด้วย เพราะปัจจุบันทักษะทางด้านภาษาอังกฤษของครูยังไม่ดีพอ ทั้งนี้ จะเริ่มนำร่องในการคัดเลือกครูตามโครงการครูมืออาชีพ ปีการศึกษา 2557 ส่วนรายละเอียดของคะแนนสอบจะเป็นอย่างไรนั้นต้องหารือกันอีกครั้ง