โพลชี้เด็กเกินครึ่งสนใจอยากเรียนภาษาต่างประเทศช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนี้ พบภาษาอังกฤษยังเป็นอันดับ 1 ที่เด็กสนใจเรียน รองลงมาคือภาษาจีน เกาหลี และญี่ปุ่น ระบุต้องการเพิ่มทักษะการใช้ภาษาถึง 80.68% สำหรับเด็กที่ไม่สนใจเรียนพิเศษ เพราะไม่ชอบเรียนภาษาต่างประเทศสูงสุด อยากพักผ่อนช่วงปิดเทอม ขี้เกียจเรียน และสิ้นเปลือง
สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา ทำการสำรวจการใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคฤดูร้อนของเยาวชนไทย จำนวน 1,052 คน ระหว่าวันที่ 10-14 มี.ค. 2557 พบว่า พฤติกรรมการเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ร้อยละ 51.05 ระบุว่า เคยเรียน ร้อยละ 59.03 ระบุว่า มีความสนใจที่จะเรียนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี 2557 หนึ่งในสามหรือร้อยละ 30.43 สนใจอยากเรียนภาษาอังกฤษ รองลงมาเกือบหนึ่งในสี่หรือร้อยละ 24.96 อยากเรียนภาษาจีน ร้อยละ 13.53 อยากเรียนภาษาเกาหลี และร้อยละ 11.59 อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น ทั้งนี้ ร้อยละ 32.37 ตั้งใจจะเรียนที่สถาบันสอนภาษาเป็นการเฉพาะ/การจัดค่ายเรียนรู้ภาษา และร้อยละ 24.15 ตั้งใจจะเรียนที่สถาบันการศึกษาทั่วไป
สำหรับสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างคาดหวังจากการเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี 2557 ร้อยละ 83.25 คือ มีทักษะความรู้ในการใช้ภาษานั้นๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 81.48 ได้รับความรู้ในสิ่งที่ต้องการ ร้อยละ 79.23 สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปใช้ได้จริง ร้อยละ 77.13 ได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญในภาษานั้นๆ อย่างแท้จริง และร้อยละ 74.07 มีสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ/มาตรฐาน นอกจากนี้ ร้อยละ 80.03 เห็นว่าการเรียนภาษาต่างประเทศช่วงปิดภาคเรียนจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และร้อยละ 78.58 เห็นว่าจะช่วยให้มีทักษะความรู้เกี่ยวกับภาษาที่เรียนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้
เมื่อถามถึงสาเหตุสำคัญที่สนใจอยากเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี 2557 พบว่า ร้อยละ 82.77 ต้องการเพิ่มทักษะในการใช้ภาษา ร้อยละ 80.68 พ่อแม่ผู้ปกครองหรือบุคคลใกล้ชิดต้องการให้เรียน ร้อยละ 78.9 เพื่อประโยชน์ในการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้นต่อไป ร้อยละ 76.65 เพื่อนๆ/ครูอาจารย์ชักชวนให้เรียน และร้อยละ 73.91 ต้องการติดตามข้อมูลเรื่องราวของสิ่งที่สนใจ ส่วนสาเหตุสำคัญที่กลุ่มตัวอย่างไม่มีความสนใจอยากเรียนคือ ร้อยละ 82.37 ไม่ชอบเรียนภาษาต่างประเทศ ร้อยละ 80.74 อยากพักผ่อนช่วงปิดภาคเรียน ร้อยละ 78.19 ขี้เกียจเรียน ร้อยละ 75.64 สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และร้อยละ 72.16 มีกิจกรรมอื่นทำแล้ว
สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม ระดับอุดมศึกษา ทำการสำรวจการใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคฤดูร้อนของเยาวชนไทย จำนวน 1,052 คน ระหว่าวันที่ 10-14 มี.ค. 2557 พบว่า พฤติกรรมการเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ร้อยละ 51.05 ระบุว่า เคยเรียน ร้อยละ 59.03 ระบุว่า มีความสนใจที่จะเรียนในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี 2557 หนึ่งในสามหรือร้อยละ 30.43 สนใจอยากเรียนภาษาอังกฤษ รองลงมาเกือบหนึ่งในสี่หรือร้อยละ 24.96 อยากเรียนภาษาจีน ร้อยละ 13.53 อยากเรียนภาษาเกาหลี และร้อยละ 11.59 อยากเรียนภาษาญี่ปุ่น ทั้งนี้ ร้อยละ 32.37 ตั้งใจจะเรียนที่สถาบันสอนภาษาเป็นการเฉพาะ/การจัดค่ายเรียนรู้ภาษา และร้อยละ 24.15 ตั้งใจจะเรียนที่สถาบันการศึกษาทั่วไป
สำหรับสิ่งที่กลุ่มตัวอย่างคาดหวังจากการเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี 2557 ร้อยละ 83.25 คือ มีทักษะความรู้ในการใช้ภาษานั้นๆ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 81.48 ได้รับความรู้ในสิ่งที่ต้องการ ร้อยละ 79.23 สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนไปใช้ได้จริง ร้อยละ 77.13 ได้เรียนกับผู้เชี่ยวชาญในภาษานั้นๆ อย่างแท้จริง และร้อยละ 74.07 มีสื่อการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ/มาตรฐาน นอกจากนี้ ร้อยละ 80.03 เห็นว่าการเรียนภาษาต่างประเทศช่วงปิดภาคเรียนจะเป็นประโยชน์ต่อตนเอง และร้อยละ 78.58 เห็นว่าจะช่วยให้มีทักษะความรู้เกี่ยวกับภาษาที่เรียนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้
เมื่อถามถึงสาเหตุสำคัญที่สนใจอยากเรียนภาษาต่างประเทศในช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนปี 2557 พบว่า ร้อยละ 82.77 ต้องการเพิ่มทักษะในการใช้ภาษา ร้อยละ 80.68 พ่อแม่ผู้ปกครองหรือบุคคลใกล้ชิดต้องการให้เรียน ร้อยละ 78.9 เพื่อประโยชน์ในการเรียนในระดับชั้นที่สูงขึ้นต่อไป ร้อยละ 76.65 เพื่อนๆ/ครูอาจารย์ชักชวนให้เรียน และร้อยละ 73.91 ต้องการติดตามข้อมูลเรื่องราวของสิ่งที่สนใจ ส่วนสาเหตุสำคัญที่กลุ่มตัวอย่างไม่มีความสนใจอยากเรียนคือ ร้อยละ 82.37 ไม่ชอบเรียนภาษาต่างประเทศ ร้อยละ 80.74 อยากพักผ่อนช่วงปิดภาคเรียน ร้อยละ 78.19 ขี้เกียจเรียน ร้อยละ 75.64 สิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย และร้อยละ 72.16 มีกิจกรรมอื่นทำแล้ว