xs
xsm
sm
md
lg

สสจ.แพร่เน้นแพทย์ทางเลือกในหมู่บ้าน-ป้องกันแทนรักษา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่
แพร่ - สาธารณสุขจังหวัดแพร่เน้นนโยบายสนับสนุนแพทย์ทางเลือก แพทย์พื้นบ้านประจำหมู่บ้านให้มีความรู้เป็นองค์รวมเพื่อเป็นการป้องกันมากกว่าการรักษา

นายแพทย์ปิติ ทั้งไพศาล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเราใช้นโยบายการป้องกันรักษาโรคหรือตั้งรับที่โรงพยาบาลเป็นหลักทำให้มีผู้ป่วยมารักษาตัวที่โรงพยาบาลจำนวนมาก จนปัจจุบันสร้างโรงพยาบาล ขยายโรงพยาบาลออกไปเท่าไหร่ยังไม่เพียงพอต่อผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งนอกจากต้องสิ้นเปลืองงบประมาณแล้วยังทำให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ไม่เพียงพอและมีค่าใช้จ่ายเพิ่มจากการเดินทางมาโรงพยาบาล

ทางออกที่ดีนั้น นายแพทย์ปิติกล่าวว่า นโยบายใหม่สาธารณสุขจังหวัดแพร่คิดเรื่องการให้บริการถึงที่บ้าน ตามโครงการเพิ่มเตียงคนป่วยอีก 2,000 เตียง โดยทางสาธารณสุขจะจัดเครื่องมือแพทย์ที่สามารถปฏิบัติได้ในชุมชน เช่น เครื่องช่วยหายใจ เครื่องวัดไข้ วัดความดัน เครื่องชั่งน้ำหนัก เตียงสำหรับผู้ป่วย ฯลฯ เป็นต้น

มีการฝึก อสม.และกลุ่มแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือก และแพทย์พื้นบ้าน ประจำหมู่บ้านให้มีความรู้ในการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวม โดยจะเปิดโครงการคนแพร่สุขภาพดีในวันที่ 12 มิถุนายน ในกิจกรรมมีการหาความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อการสนับสนุนด้านสุขภาวะของประชาชน

อีกประการโดยเฉพาะจากสภาพภูมิศาสตร์ความเป็นอยู่ของจังหวัดแพร่ มีผักพื้นบ้านและสมุนไพรที่ประชาชนปลูกและขึ้นเองตามธรรมชาติมาก ซึ่งผักเหล่านี้นอกจากปลอดภัยจากสารเคมีแล้วยังมีสรรพคุณทางยา และคนในท้องถิ่นมีภูมิปัญญาการกินการใช้สมุนไพรอยู่แล้ว เมื่อใช้ความรู้ท้องถิ่นในการใช้ยาสมุนไพรควบคู่เข้าไปด้วย จะทำให้การดูแลสุขภาพของประชาชนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

มีงานวิจัยชัดเจนว่า พืชผักสมุนไพรหลายอย่างที่สามารถนำมาบริโภคแล้วลดปัญหาโรคเบาหวาน ความดัน ได้ดี ซึ่งปัจจุบันคนในจังหวัดแพร่หันไปบริโภคอาหารสมัยใหม่ทำให้ยอดผู้ป่วยสองโรคดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ จากสถิติ พ.ศ. 2557 ถึงเดือนมีนาคม มีผู้ป่วยที่เข้ามารักษาที่โรงพยาบาลทุกแห่ง โรคเบาหวาน 16,091 ราย และโรคความดัน 39,849 ราย

ซึ่งสถิติในปี 2556 ทั้งปีพบผู้ป่วยเบาหวานอยู่แล้ว 17,136 ราย ความดัน 40,838 ราย ซึ่งเป็นยอดผู้ป่วยที่น่าตกใจ สาเหตุมาจากการเปลี่ยนวิถีความเป็นอยู่หันไปรับประทานอาหารสมัยใหม่และรับประทานในปริมาณที่มากขึ้น ซึ่งในอดีตคนแพร่เป็นโรคกลุ่มนี้น้อยมาก

นอกจากการให้บริการที่เข้าถึงบ้านของประชาชนซึ่งอยู่ระหว่างตั้งงบประมาณที่จะนำไปใช้ในโครงการดังกล่าว การรณรงค์ทำความเข้าใจเรื่องการกินจึงสำคัญมาก โดยเฉพาะการหันมารับประทานผักพื้นบ้านที่หลากหลายให้มากขึ้น คิดง่ายๆ คือในแต่ละวันควรกินผักร้อยละ 50 ของอาหารทั้งหมด ควบคุมน้ำหนักและส่วนสูงให้สมดุล ลดปริมาณอาหารมื้อเย็น และใช้สมุนไพรที่มีสรรพคุณลดไขมันเข้าช่วยโดยมีปลูกไว้รอบๆ บ้านภายใต้คำแนะนำของแพทย์แผนไทย หรือผู้รู้ในชุมชน ก็จะสามารถห่างไกลจากโรคร้ายเหล่านี้ไปได้

“โครงการดังกล่าวคงต้องทำเป็นนโยบายที่มีการทำต่อเนื่อง สร้างแนวคิดใหม่ในการกินอยู่ของประชาชน จึงจะสามารถสู้กับโรคเหล่านี้ได้” นายแทพทย์สาธารณสุขจังหวัดแพร่กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น