ศูนย์ข่าวศรีราชา - โรงกลั่นน้ำมันไทยออลย์ ทุ่มงบปีละกว่า 50 ล้านบาท ดูแลชุมชนรอบโรงกลั่นทั้งเรื่องของสิ่งแวดล้อม และสังคม
นายวิโรจน์ มีนะพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดใหญ่ ด้านกำกับกิจการองค์กรโรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์เผยว่า ในฐานะบริษัทผลิตพลังงานชั้นของภูมิภาคเอเชีย ไทยออยล์ มุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่การดูแลเอาใจใส่ต่อสิ่งแวดล้อม และความปลอดภัยของชุมชน และให้ความช่วยเหลือสังคมด้วยความตั้งใจจริง ด้วยการใช้จุดแข็ง และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญด้านพลังงานของบริษัทฯ มาใช้งานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม (CSR) ให้เป็นประโยชน์ต่อสังคม
โดยมุ่งดำเนินนโยบายด้าน CSR ทั้งในระดับมิติชุมชนรอบโรงกลั่น เน้นการนำพลังงานที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ แทนการปล่อยทิ้งโดยสูญเปล่า ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรท้องถิ่นให้มากที่สุด
นับตั้งแต่ไทยออยล์ก้าวเข้ามาเป็นสมาชิกหนึ่งในชุมชนตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี จนถึงปัจจุบัน เจตนารมณ์ขององค์กรในการให้ความสำคัญต่อ “สุขภาพ” ของชุมชนรอบรั้ว โรงกลั่นฯ ยังคงมุ่งมั่นดังเดิม ทั้งนี้ ก็เพราะเชื่อมั่นว่า สุขภาพที่ดี คือ ต้นทุนสำคัญในการดำเนินชีวิต การที่คนในชุมชนมีสุขภาพกาย และจิตที่ดี ชุมชนนั้นย่อมมีความเข้มแข็ง สามารถเรียนรู้และ สร้างภูมิคุ้มกันชีวิตได้ด้วยตัวเอง
ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา ไทยออยล์ มุ่งเน้นยุทธศาสตร์การทำงานด้านสุขภาพ พลานามัย และคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการเสริมสร้างให้สมาชิกในแต่ละชุมชนรอบรั้วโรงกลั่นฯ รู้จักการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันมากกว่าการแก้ไขที่ปลายเหตุ ประกอบกับบทเรียนที่ได้จากโครงการออกหน่วยสาธารณสุขเคลื่อนที่ ซึ่งหมุนเวียนไปให้บริการด้านสุขภาพแก่ชุมชนต่างๆ รอบรั้วโรงกลั่นฯ พบว่า สมาชิกในชุมชนส่วนใหญ่ยังมีปัญหาเรื่องสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพฟันและช่องปาก
ที่ผ่านมา ทางเครือไทยออยล์จึงได้ทำงานต่อยอดจากความต้องการของชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร ในการขยายโอกาสให้ชุมชนให้ได้รับบริการทางด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยได้ทำการจัดตั้งศูนย์สุขภาพและการเรียนรู้เครือไทยออยล์เพื่อชุมชน เปิดให้บริการชุมชน โดยมุ่งเน้นงานด้านทันตกรรม โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กนักเรียน เพื่อรณรงค์ให้เริ่มต้นดูแลสุขภาพในเชิงป้องกันตั้งแต่เยาว์วัย รวมทั้งส่งเสริมงานด้านสุขภาพเชิงรุก ด้วยกระบวนการเวชศาสตร์ชุมชน
นายวิโรจน์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ศูนย์สุขภาพฯ ยังเป็นศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ของชุมชน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ด้วยการพึ่งพาตนเองอย่างแท้จริง โดยเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในปี 2553 และผสานความร่วมมือระหว่าง คณะกรรมการชุมชนรอบพื้นที่โรงกลั่นฯ โรงพยาบาลอ่าวอุดม เทศบาลตำบลแหลมฉบัง และเครือไทยออยล์ ที่ผ่านมา ศูนย์สุขภาพฯ ได้มีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น แอโรบิกเพื่อสุขภาพ การทดสอบสมรรถภาพของร่างกาย และคัดกรองความเสี่ยง
พร้อมทั้งมีการจัดตั้งกองทุนการศึกษาไทยออยล์ และได้มอบทุนเป็นประจำทุกปีให้แก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง เพื่อให้โอกาสทางการศึกษาแก่เด็ก และเยาวชนที่เรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์ให้มีคุณภาพชีวิตทางการศึกษาที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ เครือไทยออยล์ ยังได้จัดทำโครงการต่างๆ ด้วยการปลูกฝังความรู้ และสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนชุมชนโดยรอบพื้นที่โรงกลั่นฯ เพื่อให้เกิดความรัก และความหวงแหนถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง โดยมี โครงการต่างๆ ที่ปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการรณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อม น้อมเกล้าถวายราชินี เครือไทยออยล์ได้จัดโครงการ “รณรงค์รักษาสิ่งแวดล้อมน้อมเกล้าถวายราชินี” เป็นประจำทุกปี เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา หรือวันแม่แห่งชาติ
ล่าสุด ไทยออยล์ ได้มีโครงการจัดสร้างตึกรองรับผู้ประสบอุบัติเหตุให้แก่โรงพยาบาลแหลมฉบัง ด้วยงบประมาณจำนวนกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปี 2557 เมื่อสร้างเสร็จจะทำให้โรงพยาบาลแหลมฉบัง สามารถช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง และพื้นที่ใกล้เคียงที่ประสบอันตรายจากอุบัติเหตุได้มากขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการกำหนดมาตรการ และแผนการดำเนินงานติดตามเฝ้าระวัง แก้ไขปัญหา และป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้จากการดำเนินงานของโรงกลั่นฯ อย่างเคร่งครัด และเป็นระบบ มีการจัดตั้งหน่วยรับข้อเสนอแนะ และความคิดเห็นตลอด 24 ชั่วโมง การจัดการข้อร้องเรียนต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรม
