เชื่อ “กฎอัยการศึก” ทำการเมืองคลี่คลาย-ธุรกิจฟื้น หลังฟุบหนักตั้งแต่ต้นปี 57

พิษณุโลก - บสย.พิษณุโลกเชื่อกฎอัยการศึกทำการเมืองเริ่มคลี่คลาย มีโอกาสเห็นรัฐบาลอำนาจเต็ม ส่งผลดีภาคธุรกิจหลังฟุบหนักตั้งแต่ต้นปี 57 แต่ฟันธงที่ดินเมืองพิษณุโลกหมดสิทธิ์ไปต่อ ระยะ 5-10 ปีต่อจากนี้มีแต่ทรงระวังทรุดหลังราคาพุ่งไปรอรถไฟเร็วสูงล่วงหน้า ชี้ “คอนโด-อาคารพาณิชย์” เสี่ยงถูกทิ้งจอง

นายคมสัน วัฒนวนาพงษ์ ผู้จัดการอาวุโสสำนักงานสาขาจังหวัดพิษณุโลก บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2557 ยอดค้ำประกันของ บสย.ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับหลายปีที่ผ่านมา โดยปี 2555 ตั้งเป้าค้ำประกันสินเชื่อ 5,300 ล้านบาท เกิดขึ้นจริง 6,117 ล้านบาท ปี 2556 ตั้งเป้า 6,100 ล้านบาท เกิดขึ้นจริง 6,275 ล้านบาท แต่ปี 2557 ตั้งเป้าค้ำประกัน 6,300 ล้านบาท ช่วงไตรมาสแรกยอดเกิดขึ้นจริง 733.39 ล้านบาท ถือว่าต่ำมาก

สะท้อนว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัว สาเหตุหลักมาจากปัญหาการเมือง และโครงการภาครัฐที่ต้องชะลอออกไป ทำให้เงินไม่หมุนเวียนในระบบ อย่างไรก็ตาม บสย.ยังคงช่วยเหลือสนับสนุนผู้ประกอบการขอสินเชื่อเพิ่มเติมจากสถาบันการเงินต่อไป เพื่อให้ภาคธุรกิจ 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างสามารถประคองตัวต่อไปได้

“ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจพิษณุโลกเองเจอผลกระทบจากนโยบายภาครัฐไม่แน่นอน คือ รถไฟความเร็วสูง หลายคนมั่นใจว่าพิษณุโลกคือจุดพักหรือสถานีแรกก่อนขึ้นเหนือ ทำให้นักธุรกิจส่วนกลางและท้องถิ่นแห่ซื้อที่ดินก่อสร้างอาคารพาณิชย์ หรือแม้กระทั่งคอนโดฯ จำนวนมาก แต่สุดท้ายโครงการเงินกู้ 2.2 ล้านบาทบาทไม่ผ่าน ทุกอย่างก็หยุดนิ่ง”

นายคมสันกล่าวว่า หากมองเฉพาะเรื่องที่ดินถือว่ามีการเก็งกำไรสุดขีด ราคาที่ดินพุ่งขึ้นไปรองรับความเจริญ 5 ปีข้างหน้า จังหวะรถไฟฟ้าก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นราคาที่ดินปัจจุบันจึงแพง และต่อไปก็จะทรงๆ อยู่นิ่งหรืออาจปรับลงบ้าง ไม่น่าขึ้นต่อไปอีกในระยะสั้นๆ นี้ หรือถ้าจะขึ้นก็ต้องรออีก 5-10 ปี

อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าราคาที่ดินเขตตัวเมืองพิษณุโลกไม่ตก จะทรงตัว แต่ก็ทำให้นายหน้าค้าที่เก็งกำไรหนีตาย หมดสิทธิ์ทำกำไร ส่วนตลาดคอนโดมิเนียมต้องระวังปัญหาทิ้งใบจองห้องชุด เพราะปัจจุบันอาคารพาณิชย์ที่ก่อสร้างสไตล์โมเดิร์นหลายแห่งยังขายไม่ออกเพราะกำลังซื้อไม่มี

นายคมสันกล่าวอีกว่า ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจ 9 จังหวัดเหนือตอนล่าง ประเมินแล้วผู้ประกอบการแต่ละรายเงินไม่สะพัด อยู่ในภาวะเงินจ่ายออก เก็บลูกหนี้ไม่ได้ ทำให้เม็ดเงินในกระเป๋าหายไป หรือเรียกว่าเงินหายไปจากระบบ

จากปัญหาดังกล่าวทำให้ บสย.ต้องพยายามขับเคลื่อนธุรกิจช่วยเหลือผู้ประกอบการต่อเนื่องให้การสนับสนุนงานผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น หอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด ที่เตรียมจัดงานอุตสาหกรรมแฟร์วันที่ 6-8 มิ.ย. ที่โรงแรมวังจันทร์ริเวอร์วิว โครงการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs “SMEs…วิธีทำเงิน” วันที่ 28 พ.ค. ที่โรงแรมท็อปแลนด์พลาซ่า

นายคมสันกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม หลังมีการประกาศกฎอัยการศึกเชื่อว่าปัญหาทางด้านการเมืองจะเริ่มคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น มีโอกาสเห็นรัฐบาลตัวจริง หรือรัฐบาลเต็มๆชัดเจน จะส่งผลให้ภาคธุรกิจมีความเชื่อมั่นด้วย แต่ประเด็นสำคัญคือ ต้องติดตามทางออกของประเทศไทย หรือรอดูโฉมหน้ารัฐบาลในการขับเคลื่อนนโยบายต่อไป