ศูนย์ข่าวศรีราชา - สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เดินเครื่องยื่นหนังสือตรงนายอำเภอบางละมุง รองนายกเมืองพัทยา ตามความคืบหน้ารื้อถอนอาคารก่อสร้างไม่รับอนุญาต หวั่นเกิดโศกนาฏกรรม และเป็นกรณีมวยล้มหลังเรื่องยืดเยื้อมานานข้ามปี
วันนี้ (14 พ.ค.) นายสินไชย วัฒนศาสตร์สาธร นายกสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา เป็นตัวแทนคณะกรรมการบริหาร และตัวแทนขององค์กรภาคธุรกิจเอกชนในพื้นที่เมืองพัทยา ยื่นหนังสือตรงต่อ นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง และนายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา เกี่ยวกับการติดตามความคืบหน้าการรื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรณีโรงแรมบูติดโฮเต็ล ซอยโรงแรมวีซี พัทยาใต้ ในที่ประชุมสมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ท่ามกลางสักขีพยานเป็นสมาชิกสภาเมืองพัทยา และองค์กรภาคธุรกิจในพื้นที่ที่เข้าร่วมอย่างคับคั่ง
นายสินไชย กล่าวว่า อาคารดังกล่าวเป็นปัญหาเรื้อรังมานานข้ามปี ด้วยเป็นอาคารที่ก่อสร้างต่อเติมโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่มีการลักลอบเปิดให้บริการ ทั้งๆ ที่มีคำสั่งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ทำการรื้อถอนในส่วนที่ต่อเติมไปแล้ว ด้วยหวั่นว่าอาจจะเกิดอันตรายแก่ผู้ใช้บริการได้
แต่ปรากฏว่า จนถึงปัจจุบันแม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแล้วแต่ก็ยังไม่พบว่ามีการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด ภาคธุรกิจจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้มีการแก้ไขอย่างจริงจัง โดยได้ทำหนังสือตรงเร่งรัดให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงอย่างเมืองพัทยา และอำเภอบางละมุง เข้าไปตรวจสอบ และดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพราะอาจเกิดผลกระทบจากปัญหาอาคารทรุดตัวลงได้ ซึ่งหากเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นย่อมสร้างปัญหาต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาอย่างรุนแรงในอนาคต
ด้านนายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง กล่าวว่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงไปดำเนินการรื้อถอนวัสดุ และอุปกรณ์ในตัวอาคารไปแล้วบางส่วนในช่วงปลายปีที่ผ่านมา พร้อมมอบหมายให้เมืองพัทยา เข้าไประงับการใช้อาคาร และให้ผู้ประกอบการรื้อถอนส่วนของการต่อเติม
รวมทั้งสั่งการให้มีการประสานงานไปยังการประปา และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เพื่อระงับการใช้ซึ่งจะเป็นหนทางหนึ่งที่จะบังคับให้หยุดระงับการใช้อาคาร และแก้ไขปัญหาตามที่ภาครัฐระบุ แต่จนถึงปัจจุบัน ก็ยังได้รับรายงานว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ได้เข้าไปบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง อีกทั้งยังใช้ระยะเวลาแก่ผู้ประกอบการ 180 วัน เพื่อให้ทำการปรับปรุง และรื้อถอนอาคารเอง ซึ่งจนถึงเวลานี้พบว่าเกินระยะเวลาที่เมืองพัทยาได้อนุญาตไปแล้ว
ดังนั้น ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ อำเภอบางละมุง จะสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงาที่เกี่ยวข้อง และองค์กรภาคธุรกิจในการเข้าไปตรวจสอบที่อาคารดังกล่าวอีกครั้ง เพื่อตรวจดูว่าผู้ประกอบการได้ดำเนินการรื้อถอนไปแล้วในส่วนที่แจ้งไว้ต่อทางราชการหรือไม่ หรือจะเป็นเพียงพฤติกรรมเพื่อแค่ประวิงเวลาในการรื้อถอนเท่านั้น
ทั้งนี้ หากพบว่ายังไม่มีการดำเนินการใดๆ เกิดขึ้น ก็คงจะต้องใช้มาตรการจัดการอย่างเด็ดขาดในส่วนที่มีการฝ่าฝืนคำสั่งของรัฐ เนื่องจากผู้ประกอบการเองไม่ให้ความสำคัญตามครรลองของกฎหมาย
อีกทั้งผู้ประกอบการก็เป็นชาวต่างชาติที่ควรเคารพกฎ และระเบียบของบ้านเมืองด้วย จะมาทำอะไรตามอำเภอใจมิได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐเองนั้นหากพบว่าที่ผ่านมาไม่เข้ามากำกับดูแล และตรวจสอบความคืบหน้าในการรื้อถอนอาคารส่วนต่อเติม รวมถึงการไม่มาดำเนินการให้มีการปิดบริการในช่วงปรับปรุงแก้ไข แต่กลับละเลยให้มีการเปิดใช้บริการในช่วงเวลาดังกล่าวก็คงต้องมีมาตรการเช่นกัน ซึ่งในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ จะได้รู้เห็นแน่ชัดว่ามีผลเป็นประการใด
