ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาเอาจริง พรุ่งนี้เตรียมเข้ารื้อถอนอาคารรุกล้ำแนวคลองสาธารณะทั้ง 14 ราย หลังออกคำสั่งรื้อถอนอาคารแจ้งผู้ประกอบการมานานนับปี เหตุสร้างปัญหาขวางกั้นทางระบายน้ำส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รองนายกเมืองพัทยายืนยันไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
จากกรณีที่เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่เมืองพัทยา ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังอย่างหนัก ประชาชนเป็นจำนวนมากต้องเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนั้นผู้บริหารเมืองพัทยาระบุว่า นอกจากปัจจัยในเรื่องของน้ำทะเลหนุนแล้ว ยังมีปัญหาในเรื่องของการระบายน้ำที่เป็นไปด้วยความเชื่องช้า เนื่องจากคลองพัทยาใต้ ซึ่งเป็นทางระบายน้ำหลักลงสู่ทะเลมีสภาพคับแคบที่สำคัญยังพบว่ามีการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแนวคลองเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการติดค้างของขยะมูลฝอยและเศษตะกอนดินจนทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้สะดวก ดังนั้น เมื่อมีปริมาณน้ำฝนเป็นจำนวนมากจึงทำให้เกิดการเอ่อล้น และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
กรณีดังกล่าวที่ผ่านมา อำเภอบางละมุง ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมสื่อมวลชนลงตรวจสอบสภาพแนวคลองบริเวณพัทยาใต้ ซึ่งพบว่าตลอดแนวคลองซึ่งมีขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตรนั้น มีผู้ประกอบการภาคเอกชนหลายแห่งทำการก่อสร้างอาคาร สะพาน และสิ่งปลูกสร้างอื่นคร่อมแนวคลอง ขณะที่บริเวณฐานของอาคารเหล่านี้ก็มีการตอกเสาซีเมนต์ หรือเสาไม้ลงไปในแนวคลอง ทำให้มีเศษวัสดุจำพวกพลาสติก และอื่นๆ รวมทั้งเศษตะกอนดินทับถมอยู่เป็นจำนวนมาก
ขณะที่ในบางพื้นที่ ซึ่งมีการถมดินบริเวณริมแนวคลองนั้นก็มีภาคเอกชนบางส่วนบุกรุกเข้ามาปลูกที่พักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมืองพัทยาจึงได้มีคำสั่งห้ามในการห้ามใช้อาคาร หรือ ค.4 และให้รื้อถอนอาคาร หรือ ค.7 เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม แต่พบว่าจนถึงปัจจุบันผ่านเวลามานานนับปีกรณีดังกล่าวก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในกระแสสังคมกันว่ากรณีนี้อาจจะเป็นมวยล้มที่เมืองพัทยาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ล่าสุด นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับสภาพพื้นที่บริเวณแนวคลองพัทยาใต้ หมู่ 10 ซอยพัทยาใต้ 16 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อกำหนดแนวทางในการเข้าปฏิบัติและรื้อถอนอย่างเป็นรูปธรรม โดยในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เมืองพัทยาจะได้ร่วมกับอำเภอบางละมุง และองค์กรภาคธุรกิจในการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนอาคาร และสิ่งปลูกสร้างที่ส่งผลกระทบต่อการไหลของน้ำในแนวคลอง ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น.เป็นต้นไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ
นายวีรวัฒน์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือคำสั่งให้ทำการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำจำนวน 14 ราย รวมพื้นที่กว่า 4 ไร่ ตลอดแนวลำคลอง โดยเบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการรื้อถอนไปแล้วบางส่วน ขณะที่บางส่วนเองก็ยังไม่ยินยอมดำเนินการตามคำสั่ง และปัญหาเหล่านี้ก็คาราคาซังมานานจนส่งผลกระทบต่อเนื่อง โดยเฉพาะล่าสุด เกิดพายุฝนช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งแม้จะมีปริมาณไม่มาก แต่ก็ก่อให้เกิดน้ำท่วมขังเช่นกัน ทั้งนี้ เพราะมีผลพวงมาจากปัญหาคลองคับแคบ ดังนั้น ก่อนที่จะถึงฤดูฝนอย่างเป็นรูปธรรมจึงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นเด็ดขาดเพื่อให้ปัญหาหมดไป
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า การทำงานตรงนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีการประกาศแจ้งเตือนผู้รุกล้ำมาแล้วหลายครั้ง โอกาสนี้ จึงผนึกกำลังร่วมกับทุกส่วนในการเข้าดำเนินการ ซึ่งมีเป้าหมายจะต้องรื้อถอนให้ได้ 80% ในสัดส่วนที่รุกล้ำแนวคลอง ขณะที่อาคารขนาดใหญ่ หรือสิ่งกีดขวางลำคลองขนาดใหญ่นั้นก็จะเข้าเจรจากับผู้ประกอบการอีกครั้ง รวมทั้งการดำเนินคดีตามขั้นตอนของศาลด้วยเพื่อให้ปัญหายุติลง ทั้งนี้ ที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งใคร
จากกรณีที่เกิดพายุฝนตกลงมาอย่างหนักในพื้นที่เมืองพัทยา ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังอย่างหนัก ประชาชนเป็นจำนวนมากต้องเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นนั้นผู้บริหารเมืองพัทยาระบุว่า นอกจากปัจจัยในเรื่องของน้ำทะเลหนุนแล้ว ยังมีปัญหาในเรื่องของการระบายน้ำที่เป็นไปด้วยความเชื่องช้า เนื่องจากคลองพัทยาใต้ ซึ่งเป็นทางระบายน้ำหลักลงสู่ทะเลมีสภาพคับแคบที่สำคัญยังพบว่ามีการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแนวคลองเป็นจำนวนมาก ทำให้มีการติดค้างของขยะมูลฝอยและเศษตะกอนดินจนทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้สะดวก ดังนั้น เมื่อมีปริมาณน้ำฝนเป็นจำนวนมากจึงทำให้เกิดการเอ่อล้น และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน
กรณีดังกล่าวที่ผ่านมา อำเภอบางละมุง ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมสื่อมวลชนลงตรวจสอบสภาพแนวคลองบริเวณพัทยาใต้ ซึ่งพบว่าตลอดแนวคลองซึ่งมีขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตรนั้น มีผู้ประกอบการภาคเอกชนหลายแห่งทำการก่อสร้างอาคาร สะพาน และสิ่งปลูกสร้างอื่นคร่อมแนวคลอง ขณะที่บริเวณฐานของอาคารเหล่านี้ก็มีการตอกเสาซีเมนต์ หรือเสาไม้ลงไปในแนวคลอง ทำให้มีเศษวัสดุจำพวกพลาสติก และอื่นๆ รวมทั้งเศษตะกอนดินทับถมอยู่เป็นจำนวนมาก
ขณะที่ในบางพื้นที่ ซึ่งมีการถมดินบริเวณริมแนวคลองนั้นก็มีภาคเอกชนบางส่วนบุกรุกเข้ามาปลูกที่พักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาตแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมืองพัทยาจึงได้มีคำสั่งห้ามในการห้ามใช้อาคาร หรือ ค.4 และให้รื้อถอนอาคาร หรือ ค.7 เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม แต่พบว่าจนถึงปัจจุบันผ่านเวลามานานนับปีกรณีดังกล่าวก็ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก และกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในกระแสสังคมกันว่ากรณีนี้อาจจะเป็นมวยล้มที่เมืองพัทยาไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้
ล่าสุด นายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อร่วมหารือเกี่ยวกับสภาพพื้นที่บริเวณแนวคลองพัทยาใต้ หมู่ 10 ซอยพัทยาใต้ 16 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อกำหนดแนวทางในการเข้าปฏิบัติและรื้อถอนอย่างเป็นรูปธรรม โดยในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เมืองพัทยาจะได้ร่วมกับอำเภอบางละมุง และองค์กรภาคธุรกิจในการนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อถอนอาคาร และสิ่งปลูกสร้างที่ส่งผลกระทบต่อการไหลของน้ำในแนวคลอง ตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น.เป็นต้นไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ
นายวีรวัฒน์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือคำสั่งให้ทำการรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำจำนวน 14 ราย รวมพื้นที่กว่า 4 ไร่ ตลอดแนวลำคลอง โดยเบื้องต้นพบว่ามีผู้ประกอบการให้ความร่วมมือในการรื้อถอนไปแล้วบางส่วน ขณะที่บางส่วนเองก็ยังไม่ยินยอมดำเนินการตามคำสั่ง และปัญหาเหล่านี้ก็คาราคาซังมานานจนส่งผลกระทบต่อเนื่อง โดยเฉพาะล่าสุด เกิดพายุฝนช่วงเทศกาลสงกรานต์ซึ่งแม้จะมีปริมาณไม่มาก แต่ก็ก่อให้เกิดน้ำท่วมขังเช่นกัน ทั้งนี้ เพราะมีผลพวงมาจากปัญหาคลองคับแคบ ดังนั้น ก่อนที่จะถึงฤดูฝนอย่างเป็นรูปธรรมจึงต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นเด็ดขาดเพื่อให้ปัญหาหมดไป
นายวีรวัฒน์ กล่าวว่า การทำงานตรงนี้ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย และมีการประกาศแจ้งเตือนผู้รุกล้ำมาแล้วหลายครั้ง โอกาสนี้ จึงผนึกกำลังร่วมกับทุกส่วนในการเข้าดำเนินการ ซึ่งมีเป้าหมายจะต้องรื้อถอนให้ได้ 80% ในสัดส่วนที่รุกล้ำแนวคลอง ขณะที่อาคารขนาดใหญ่ หรือสิ่งกีดขวางลำคลองขนาดใหญ่นั้นก็จะเข้าเจรจากับผู้ประกอบการอีกครั้ง รวมทั้งการดำเนินคดีตามขั้นตอนของศาลด้วยเพื่อให้ปัญหายุติลง ทั้งนี้ ที่ทำไปทุกอย่างก็เพื่อประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลักไม่ได้ต้องการกลั่นแกล้งใคร