เมืองพัทยาร่วมอำเภอบางละมุง ดูปัญหาคลองพัทยาใต้ หลังพบกรณีรื้อถอนอาคารรุกล้ำยังไม่คืบ สร้างปัญหาน้ำท่วมขัง

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยาเอาจริง รื้อถอนอาคารรุกล้ำแนวคลองสาธารณะ 12 ราย หลังแจ้งผู้ประกอบการมากว่า 6 เดือน เหตุสร้างปัญหาขวางทางระบายน้ำ ส่งผลน้ำท่วมขังต่อเนื่อง นายอำเภอบางละมุง ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

วันนี้ (26 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีเกิดฝนตกลงมาอย่างหนักในเมืองพัทยา จ.ชลุรี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังประชาชนเดือดร้อน ซึ่งผู้บริหารเมืองพัทยาระบุว่ านอกจากน้ำทะเลหนุนแล้ว ยังมีปัญหาการระบายน้ำที่เป็นไปด้วยความล่าช้า เนื่องจากคลองพัทยาใต้ ซึ่งเป็นทางระบายน้ำหลักลงสู่ทะเลมีสภาพคับแคบ ที่สำคัญยัมีการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแนวคลอง ทำให้งขยะมูลฝอย และเศษตะกอนดินติดค้าง ทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้สะดวก

ซึ่งนายเชาวลิตร แสงอุทัย อดีตนายอำเภอบางละมุง ได้นำคณะเจ้าหน้าที่พร้อมสื่อมวลชน ลงตรวจสอบสภาพแนวคลองพัทยาใต้ ซึ่งพบว่า ตลอดแนวคลอง ซึ่งมีขนาดความกว้างประมาณ 2 เมตร มีผู้ประกอบการหลายแห่งก่อสร้างอาคาร สะพาน และสิ่งปลูกสร้างอื่นคร่อมแนวคลอง ขณะที่ฐานของอาคารเหล่านี้ได้ตอกเสาเข็มปูน หรือเสาไม้ลงไปในแนวคลอง ทำให้มีเศษวัสดุติดคาอยู่จำนวนมาก

ขณะที่บางพื้นที่ซึ่งมีการถมดินริมแนวคลอง มีภาคเอกชนบุกรุกเข้ามาปลูกที่พักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ เมืองพัทยาจึงได้มีคำสั่งห้ามใช้อาคาร หรือ ค.4 และให้รื้อถอนอาคาร หรือ ค.7 อย่างเร่งด่วนเมื่อกลางเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

ล่าสุด นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง พร้อมนายวีรวัฒน์ ค้าขาย รองนายกเมืองพัทยา ลงพื้นที่หมู่ 10 ซอยพัทยาใต้ 16 อ.บางละมุง เพื่อตรวจสอบสภาพปัญหา และความคืบหน้าของการรื้อถอนอาคาร ซึ่งที่ผ่านมา ได้มีหนังสือสั่งให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำ 14 ราย เบื้องต้นพบว่า มีผู้ประกอบการให้ความร่วมมือรื้อถอนแล้ว 7 ราย อีก 7 รายยังไม่ยอมดำเนินการ

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเครื่องสูบน้ำของเมืองพัทยา บริเวณท่าเรือบาลีฮาย พบว่ามีสภาพสมบูรณ์ดี แต่ที่เกิดน้ำท่วมขังมาจากการรุกล้ำแนวคลองกว่า 1 กิโลเมตร ที่ยังฝ่าฝืนคำสั่งรื้อถอนอยู่หลายราย ทำให้แนวคลองคับแคบ เป็นคอขวด ขณะโรงแรมบางแห่งยังนำผ้าใบและโครงเหล็กมาปิดคลุมแนวคลอง ถมดินทำเกาะกลางคลองเพื่อปลูกต้นไม้ หรือพื้นซีเมนต์เหนือแนวคลองเป็นบริเวณกว้าง ทำให้เกิดปัญหาการชะลอตัวของน้ำ ซึ่งจากนี้คงจะขอความร่วมมือปรับปรุงแก้ไข รวมทั้งเชิญผู้ประกอบการ และชาวบ้านที่ยังฝ่าฝืนคำสั่งรื้อถอน มาร่วมเจรจาเพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า จากนี้ทางอำเภอบางละมุง และเมืองพัทยาจะต้องติดตามการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพราะเป็นช่วงฤดูฝน หากไม่แก้ไขโดเร็วอาจมีปัญหาตามมาได้ เบื้องต้นมอบให้เมืองพัทยาระบุแนวเขตความเป็นเจ้าของตามหลักหมุดที่อำเภอได้ปักปันแนวเขตไว้ พร้อมรื้อถอนส่วนที่รุกล้ำโดยด่วน รวมทั้งประชุมผู้ประกอบการ และชาวบ้านให้ทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันแก้ปัญหาต่อไป