เมืองพัทยาร่วมกับอำเภอบางละมุง สั่งรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองสาธารณะพัทยาใต้

ศูนย์ข่าวศรีราชา - เมืองพัทยา ร่วมกับอำเภอบางละมุง สั่งรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำแนวคลองสาธารณะพัทยาใต้ หลังสร้างปัญหาเรื้อรังมานานนับสิบปี

จากกรณีที่ฝนตกอย่างหนักในเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมขังอย่างหนัก ประชาชนเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้บริหารเมืองพัทยาระบุว่า นอกจากน้ำทะเลหนุนแล้ว ยังมีปัญหาในการระบายน้ำที่เป็นไปด้วยความเชื่องช้า เนื่องจากคลองพัทยาใต้ ซึ่งเป็นทางระบายน้ำหลักลงสู่ทะเล มีสภาพคับแคบ มีการปลูกสร้างอาคารรุกล้ำแนวคลอง ทำให้มีขยะมูลฝอย และเศษตะกอนดินตกค้างจนทำให้ระบายน้ำไม่สะดวก

จากปัญหาดังกล่าว ทางอำเภอบางละมุง ได้นำคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพแนวคลองบริเวณพัทยาใต้ พบว่าตลอดแนวคลองซึ่งมีกว้างประมาณ 2 เมตร มีผู้ประกอบการรวม 14 ราย ก่อสร้างอาคาร สะพาน และสิ่งปลูกสร้างอื่นคร่อมแนวคลอง กินพื้นที่กว่า 4 ไร่เศษ ขณะที่ฐานของอาคารมีการตอกเสาซีเมนต์ หรือเสาไม้ลงไปในแนวคลอง ทำให้มีเศษวัสดุจำพวกพลาสติก และอื่นๆ รวมทั้งเศษตะกอนดินทับถมอยู่เป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้ ในบางพื้นที่ซึ่งมีการถมดินริมแนวคลอง มีภาคเอกชนบุกรุกปลูกที่พักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต เมืองพัทยาจึงได้มีคำสั่งห้ามห้ามใช้อาคาร หรือ ค.4 และให้รื้อถอนอาคาร หรือ ค.7 เพื่อแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม แต่พบว่าผ่านมานานนับปียังไม่มีความคืบหน้า และกลายเป็นที่วิจารณ์ว่ากรณีนี้อาจเป็นมวยล้ม

ล่าสุด นายศักดิ์ชัย แตงฮ่อ นายอำเภอบางละมุง พร้อมด้วยนายวีรวัฒน์ ค้าขาย นายรณกิจ เอกะสิงห์ รองนายกเมืองพัทยา สมาชิกสภาเมืองพัทยา ตัวแทนภาคเอกชน นำกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครอง สำนักการช่างเมืองพัทยา และเทศกิจรวมกว่า 100 นาย นำรถแบ็กโฮ รถขุดเจาะ อุปกรณ์ และเครื่องมือเข้าทำการรื้อถอนแนวถนน แนวสะพาน และอาคารบางส่วนที่สร้างรุกล้ำและคร่อมแนวคลองสาธารณะ บริเวณหมู่ 10 ต.หนองปรือ แล้วอย่างเป็นทางการ โดยเริ่มด้วยการกำหนดแนวเขตของคลองสาธารณะ พร้อมลงมือขุดเจาะ และรื้อถอนส่วนรุกล้ำทันที

พร้อมกันนี้ ได้ชี้แจงแก่ผู้ประกอบการ และชาวบ้านให้รื้อถอนภายในเวลา 3 วัน หากยังฝ่าฝืนจะใช้อำนาจตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เข้ารื้อถอนทันที ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีชาวบ้านบางส่วนลงนามรับทราบคำสั่ง ขณะที่ประมาณ 10% ยังคงฝ่าฝืน เมืองพัทยา จะได้ฟ้องร้องต่อไป ทั้งนี้คาดว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาการรุกล้ำได้กว่า 80%

นายศักดิ์ชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบผังที่ดินริมแนวคลอง พบว่า แท้จริงมีความกว้างมากกว่าที่ทางกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ทำไว้ แต่เมื่อปล่อยระยะเวลาเนิ่นนานไป ทำให้ชาวบ้าน และผู้ประกอบการก่อสร้างรุกล้ำเข้ามาในแนวคลอง ซึ่งที่ผ่านมา แม้จะมีคำสั่งให้รื้อถอน แต่ก็ไม่มีการติดตามผลอย่างเป็นรูปธรรมจึงทำให้ปัญหายืดเยื้อ ส่งผลเสียต่อบ้านเมือง ครั้งนี้จึงถือเป็นโอกาสอันดีที่ทุกภาคส่วนเข้ามาแก้ปัญหาอย่างจริงจัง โดยได้ลงมือทำการขุดรื้อ ทำลายสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำแนวคลอง

สำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่อย่างโรงแรมสยาม เบย์ ชอว์ หรืออาคารบาลีฮาย พลาซ่า จะได้เจรจาขอความร่วมมือ พร้อมให้เมืองพัทยาติดตามความคืบหน้า โดยยืนยันว่าจะไม่มีการยกเว้นให้แก่ใครโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ หรือรายเล็ก จากนั้นคงจะมีการหารืออีกครั้งว่าจะปรับสภาพแนวคลองใหม่อย่างไร เช่น การขยายสันเขื่อนเพื่อขยายคลองให้กว้างขึ้น เพื่อป้องกันการรุกล้ำ และเปิดทางระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ