กาญจนบุรี - ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 ห่วงนักล่าขุมทองโกโบริลักลอบขุดหาสมบัติสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กลางคืน หวั่นทำลายทรัพยากรของชาติเสียหาย วอนผู้นำท้องถิ่นหากพบช่วยแจ้งเบาะแส เชื่อหากมีจริงทหารญี่ปุ่นขนกลับหมดแล้ว
จากกรณีนายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค และ กจ.12 (สะพานลาว) อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาลักลอบขุดเจาะภูเขาเพื่อค้นหาสมบัติ หรือขุมทองโกโบริ บริเวณเชิงเขาติดกับเส้นทางรถไฟ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พื้นที่หมู่ 1 ต.ลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
ล่าสุด วันนี้ (26 เม.ย.) นายบุญสืบ สมัครราช ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) กล่าวว่า ถึงแม้พื้นที่จะถูกทำลายไม่มากนักก็ตามเมื่อคำนวณแล้วพบว่าเสียหายประมาณ 28 ตารางวา ขณะนี้อยู่ระหว่างรอให้ผู้เชี่ยวชาญจากกรมป่าไม้มาประเมินราคา
สำหรับพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตสหกรณ์นิคมทองผาภูมิ ซึ่งเป็นเขตกันไว้สำหรับเป็นพื้นที่ป่า 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งชาวบ้าน หรือประชาชนอาจจะไม่เข้าใจ จึงอยากอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ คือ สมมติว่าพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของสหกรณ์นิคมมี จำนวน 100 ไร่ จะต้องกันเอาไว้ให้เป็นป่า 20 ไร่ โดยกรมป่าไม้เป็นผู้ดูแล และรับผิดชอบ หากใครมาบุกรุกแผ้วถาง หรือทำลายกรมป่าไม้จะเป็นผู้จับกุมดำเนินคดี เช่นเดียวกับผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ที่ได้เข้าไปลักลอบขุดเจาะเชิงเขาเพื่อเข้าไปค้นหาสมบัติ จึงเป็นหน้าที่ของกรมป่าไม้เข้าไปจับกุม
หลังจากมีข่าวออกไปสู่สายตาของสังคม เจ้าหน้าที่เกรงว่าอาจจะมีบุคคลที่ยังมีความเชื่อในเรื่อง ขุมทองโกโบริ หรือสมบัติที่ทหารญี่ปุ่นฝังเอาไว้ในพื้นที่ป่า ถ้ำ หรือภูเขา ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังคงหลงเหลืออยู่ และส่วนใหญ่จะเป็นบุคคลที่อาศัยอยู่นอกพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เหมือนที่เคยเป็นข่าวโด่งดังเมื่อหลายปีก่อน
ส่วนตนเชื่อว่าหากทหารญี่ปุ่นในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นำสมบัติเหล่านั้นไปซ่อนเอาไว้ตามจุดต่างๆ ก่อนเดินทางกลับประเทศหลังแพ้สงคราม เชื่อว่าทหารญี่ปุ่นคงเดินทางกลับเข้ามาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และขนสมบัติกลับประเทศไปหมดแล้ว
ดังนั้น จึงขอเตือนไปถึงบุคคลที่ยังหลงเชื่อว่ายังมีสมบัติซ่อนอยู่ ขอให้ยกเลิกความตั้งใจที่จะขุดเจาะภูเขา ถ้ำ และผืนป่า เพราะทรัพยากรเหล่านั้นเป็นทรัพยากรของชาติ และเป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ และหากยังฝ่าฝืน หากเจ้าหน้าที่จับกุมได้ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย และหากสาวไปถึงกลุ่มนายทุนที่ว่าจ้างคนงานก็จะถูกดำเนินคดีเช่นกัน และอยากเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่นั้นๆ หากพบผู้กระทำผิด ขอให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ดูแลอยู่ในพื้นที่ทราบ เพื่อจะรีบดำเนินการตรวจสอบ และจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้อย่างทันท่วงที
สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้คาหนังคาเขา ขณะลงมือขุดหาสมบัติประกอบด้วย นายนะ ตุ้มสี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/9 หมู่ 2 ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายชรินทร สุขกำแหง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 1 ต.บางระกำ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายเอกชัย กระต่ายทอง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/2 หมู่ 4 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และนายจตุโชค ฑีนฤทธิ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/34 หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต โดยยอมรับว่าได้ค่าจ้างจากนายทุนชื่อแอ๊ด วันละ 350 บาท