กาญจนบุรี - ป่าไม้กาญจนบุรี นำกำลังบุกจับนักล่าขุมทองโกโบริ ภายในเขตสหกรณ์นิคมทองผาภูมิ ป่า 20% หมู่ 1 ตำบลลิ้นถิ่น อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี รวบลูกจ้าง 4 ราย พบเจาะเป็นอุโมงค์เข้าไปในภูเขาติดเส้นทางรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยาว 30 เมตร สูงเกือบ 2 เมตร
เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (25 เม.ย.) นายบุญสืบ สมัครราช ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่า และควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 (ราชบุรี) ได้รับการร้องเรียนว่า มีขบวนการลักลอบขุดหาสมบัติสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขุมทองโกโบริ ด้วยการใช้อุปกรณ์ขุดเจาะเป็นอุโมงค์ลึกเข้าไปในภูเขา เหตุเกิดภายในเขตสหกรณ์นิคมทองผาภูมิ ป่า 20% หมู่ 1 ต.ลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายบุญสืบ จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ลุ่มสุ่ม) และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.12 (สะพานลาว) เดินทางไปยังจุดที่ได้รับแจ้ง
ไปถึงพบที่ราบติดเชิงเขา มีผ้าใบขนาดใหญ่กางเอาไว้สำหรับพักผ่อน และเป็นที่สำหรับประกอบอาหารของคนงาน มีอุปกรณ์ทำครัวครบ ใกล้กันมีเต็นท์ 4 หลัง มีคบเพลิงล้อมรอบ เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงพัดลมดูดอากาศดังมาจากเชิงเขาด้านบน จึงเดินไปตรวจสอบ พบพัดลมเป่าอากาศขนาดใหญ่ โดยมีถุงลมสีเหลืองดูดอากาศเข้าไปภายในอุโมงค์เพื่อให้ผู้ที่อยู่ภายในมีอากาศสำหรับหายใจ โดยมีคนงานเป็นชาย 1 คน นั่งเฝ้าอยู่หน้าอุโมงค์เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวเอาไว้ก่อน
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าไปภายในอุโมงค์ ที่มีปากทางกว้างประมาณ 1.50 เมตร ขณะเดินต้องก้มหัวลง เมื่อไปถึงกลางอุโมงค์ และท้ายอุโมงค์ที่เป็นทรงกลมสูงเกือบ 2 เมตร เห็นแสงสว่างจากสปอตไลด์อยู่ภายใน มีคนงาน 3 คน กำลังใช้อุปกรณ์ขุดเจาะผนังเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงสั่งให้คนงานทั้ง 3 หยุดพร้อมกับนำตัวออกมาภายนอก
จากนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้กับคนงานทั้ง 4 คนทราบ พร้อมทั้งยึดอุปกรณ์ที่ใช้เจาะอุโมงค์ของกลางไปเก็บไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.12 (สะพานลาว) โดยคนงานทั้ง 4 คน ประกอบด้วย นายนะ ตุ้มสี อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/9 หมู่ 2 ต.ลิ่นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี นายชรินทร สุขกำแหง อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 หมู่ 1 ต.บางระกำ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม นายเอกชัย กระต่ายทอง อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/2 หมู่ 4 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และนายจตุโชค ฑีนฤทธิ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/34 หมู่ 3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต
สำหรับของกลางอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำผิด จำนวน 9 รายการ ประกอบด้วย 1.เครื่องปั่นไฟ 1 เครื่อง 2.บูโว่ดูดอากาศ 1 ตัว 3.ท่ออากาศ ยาว 5 เมตร 2 ม้วน 4.เครื่องเจาะกระแทกไฟฟ้า 1 ตัว 5.จอบ 4 เล่ม 6.ชะแลง 1 อัน 7.สายไฟสีดำยาว 20 เมตร 1 ม้วน 8.รถเข็นดิน 1 คัน 9.บุ้งกี๋ 5 อัน
นายบุญสืบ สมัครราช เปิดเผยว่า พื้นที่ที่ถูกขุดเจาะทำลายอยู่ในเขตสหกรณ์นิคมทองผาภูมิ เป็นผืนป่า 20 เปอร์เซ็นต์ ที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ และหลังจากได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดี ทราบว่า นายแอ๊ด ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง เป็นผู้จ้างวานให้คนงานทั้ง 4 คนมาขุดเพื่อหาสมบัติสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือขุมทองโกโบริ เพราะเชื่อว่าทหารญี่ปุ่นได้นำสมบัติมาซ่อนเอาไว้ที่บริเวณนี้
อีกทั้งจุดดังกล่าวเป็นเส้นทางเดินรถไฟสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือประมาณ 74 ปีมาแล้ว แต่นายทุนที่จ้างวานยังคงเชื่อว่ายังมีสมบัติเหล่านี้หลงเหลืออยู่ จึงลักลอบกระทำความผิดโดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ส่วยตัวแล้วเชื่อว่าหากสมบัติถูกซุกซ่อนเอาไว้จริง ทหารญี่ปุ่น คงมาขนกลับประเทศไปหมดแล้ว ดังนั้น ตนขอเตือนไปถึงนักล่าขุมสมบัติที่ยังหลงเหลืออยู่ ขอให้หยุดทำลายทรัพยากรทางธรรมชาติของชาติได้แล้ว หากพบจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สำหรับคนงานทั้ง 4 จะถูกตั้งข้อหาฐานกระทำผิดตามกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 54, 72 ตรี ฐานร่วมกัน ห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองและผู้อื่นโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่พระราชบัญญัติที่ดินทำกินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 มาตรา 15 และฐานร่วมกัน เข้าไปหาประโยชน์ ยึดถือครอบครอง แผ้วถาง หรือทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่า หรือทำให้เสียสภาพที่ดิน หรือทำให้เป็นอันตรายแก่ทรัพยากรธรรมชาติในที่ดินในเขตนิคมสหกรณ์
และจากการตรวจพื้นที่บริเวณที่เกิดเหตุ พบมีการขุดดินลึกลงไปใต้ภูเขาเป็นระยะทางยาวประมาณ 30 เมตร กว้าง 1.5 เมตร คำนวณเป็นพื้นที่เสียหาย 0-0-28 ไร่ ใช้เครื่องมือตรวจหาค่าพิกัดทางดาวเทียม (GPS) เพื่อระบุตำแหน่งบริเวณที่เกิดเหตุได้ ค่าพิกัด 0473709 E 1612022 N สำหรับเงินค่าเสียหายของรัฐในคดีนี้ จะได้คำนวณตามแบบจำลองสำหรับประเมินค่าเสียหายทางสิ่งแวดล้อม ตามหลักวิชาการที่ใกล้เคียงกับความจริงในพื้นที่
โดยคนงานทั้ง 4 คน รับสารภาพว่า พวกตนได้ทำมาแล้วเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนกว่า โดยได้รับเงินจากผู้ว่าจ้างคนละ 350 บาทต่อวัน ซึ่งผู้ว่าจ้าง ชื่อนายแอ๊ด ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง อยู่ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี และยังไม่เคยพบทองคำ หรือสมบัติอื่นๆ แต่อย่างใด