สุพรรณบุรี - ตำรวจเผยพบสารคาร์บอเนตในร่างชายชราที่ถูกคนร้ายผสมใส่เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อดังให้ดื่ม จนภรรยาอายุ 49 ปี ดับคาคันคลอง ก่อนชิงเงินสด 5.5 พันบาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ เบื้องต้นสาวทอม-ดี้ต้องสงสัยยังปฏิเสธ
ความคืบหน้ากรณี นางสายใจ หลั่นเจริญ อายุ 79 ปี และนายไสว หลั่นเจริญ อายุ 76 ปี อยู่บ้านเลขที่ 172/2 หมู่ 4 ต.สนามคลี อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี สองสามีภรรยาอาชีพหาปลา ถูกคนร้ายตีสนิทก่อนที่จะนำยาพิษผสมเครื่องดื่มชูกำลังส่งให้ดื่ม เป็นเหตุให้ นางสายใจ เสียชีวิต ส่วนนายไสว แพทย์ช่วยเหลือจนปลอดภัย โดยคนร้ายฉกเงินสดไป 5,500 บาท พร้อมโทรศัพท์มือถือ เหตุเกิดบริเวณถนนคันคลอง หมู่ 3 ต.มะขามล้ม อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 14 มีนาคม เวลาประมาณ 16.00 น.
ต่อมา วันที่ 19 มีนาคม พ.ต.อ.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผกก.สภ.บางปลาม้า พ.ต.ท.วิชัย ปริ่มปราน สว.สส. สภ.บางปลาม้า พ.ต.ท.นิยม แดงโสภา พนักงานสอบสวน สภ.บางปลาม้า นำกำลังเข้าควบคุมตัว น.ส.กาหลง หรือแป๊ด ทาเหล็ก อายุ 49 ปี และ น.ส.ชฎาพร หรือดา พันธุเสือ อายุ 48 ปี ทอม-ดี้ อยู่บ้านเลขที่ 54/1 หมู่ 3 ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี มาสอบสวน เนื่องจากพบโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหายอยู่กับทั้ง 2 คน แต่ทั้ง 2 อ้างว่าซื้อมาจากชายวัยรุ่นเครื่องละ 100 บาท ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการวางยาพิษแต่อย่างใด
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (21 มี.ค.) พ.ต.อ.อัฎธพร เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า คืบหน้าไปมาก โดยได้แบ่งกำลัง 3 ชุดลงพื้นที่หาข่าวในเชิงลึก พร้อมสั่งการให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเรียกนายไสว มาสอบปากคำเพิ่มเติม นอกจากนี้ ให้สอบปากคำลูก และญาติของนายไสว อย่างละเอียด พร้อมทั้งตรวจสอบเอกสารของนางสายใจ ว่าใครได้ประโยชน์จากการทำประกันชีวิต 400,000 บาท เบื้องต้นยังไม่พบพิรุธ
และจากการสอบปากคำ นายไสว ยืนยันต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังหว่านแหอยู่ที่ถนนคันคลองกับนางสายใจ ต่อมา น.ส.กาหลง ซึ่งมีนิสัยเป็นทอม แต่งตัวคล้ายผู้ชาย เข้ามานั่งพูดคุยด้วย จากนั้นได้ยื่นเครื่องดื่มชูกำลังให้ดื่มคนละขวด และบอกว่าให้รีบดื่มเพราะจะหายเย็นแล้วจะไม่อร่อย ตนกับภรรยาจึงรีบดื่มจนหมดขวด ประมาณ 2 นาที เห็นภรรยาล้มตัวลงนอนสลบไป ส่วนตนตาเริ่มพร่ามัว และไม่รู้สึกตัวอีกเลย มารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
ซึ่งการให้ปากคำของ นายไสว ตรงกับเพื่อนบ้านที่เจ้าหน้าที่เรียกมาสอบปากคำ โดยบอกว่าเห็นน.ส.กาหลง ขับรถจักรยานยนต์ออกจากจุดเกิดเหตุ และเมื่อเพื่อนบ้านเห็น 2 สามีภรรยานอนสลบอยู่ จึงรีบตะโกนให้เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันมาช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เบื้องต้น น.ส.กาหลง ยังให้การปฏิเสธ และยังบอกต่อเจ้าหน้าที่ว่า เป็นคนบอกให้ชาวบ้านมาช่วย โดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี
พ.ต.อ.อัฎธพร กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.กาหลง มีอาชีพหาปลาไปขายเช่นกัน ที่ผ่านมาเคยไปสมัครฝึกอบรมอาสาสมัครตำรวจชุมชน ที่ สภ.เมือง ทั้งนี้ ยอมรับว่าคดีนี้เป็นคดีที่ละเอียดอ่อนมาก คนที่ลงมือโหดร้ายเป็นอย่างมาก เชื่อว่าคงประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น โดยล่าสุดผลการตรวจร่างกายของนายไสว คณะแพทย์ลงความเห็นว่า ได้ดื่มสารเคมีกำจัดวัชพืชชนิดคาร์บอเนตที่มีพิษร้ายแรงเข้าไป แต่โชคดีที่มีชาวบ้านนำส่งโรงพยาบาล และคณะแพทย์ได้ทำการล้างท้องช่วยชีวิตเอาไว้ได้ ส่วนนางไสว อายุมากแล้วคงทนไม่ไหว
“อย่างไรก็ตาม ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้มากกว่านี้ก่อน โดยเรายังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นหนึ่งออกไป โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับเงินประกันชีวิต และฆ่าชิงทรัพย์”