เชียงราย - ประธานชมรมโรงสีข้าวเชียงรายฟันธงกลางวงหารือสภาเกษตรกรฯ ปีนี้ไม่มี “จำนำข้าว” แน่ แถมผลผลิตนาปรังใกล้ออกจนส่อเกิดภาวะข้าวล้นตลาด ซ้ำเติมชาวนาที่ยังต้องรอเงินจำนำข้าวจากรัฐบาลอีก
การประชุมสภาเกษตรกร จ.เชียงราย ครั้งล่าสุดที่จัดขึ้น ณ ห้องประชุมของสำนักงานสภาเกษตรกรฯ วานนี้ (20 มี.ค.) ได้หารือกันถึงสถานการณ์ข้าวนาปรังในพื้นที่ ซึ่งจะออกสู่ตลาดราวกลางปี 2557 ได้เชิญนายศิริ ชัยสถิติวาณิชย์ ประธานชมรมโรงสีข้าว จ.เชียงราย เข้าร่วมด้วย เพื่อให้ความเห็นและแนวทางแก้ไขปัญหา หลังคาดว่าจะเกิดปัญหาเรื่องราคาตกต่ำ-ผลผลิตล้นตลาด รวมทั้งไม่มีโครงการจากรัฐรองรับได้
นายศิริกล่าวว่า สถานการณ์ข้าวนาปรังฤดูกาลปี 2557 จะมีการเปลี่ยนแปลง และถือว่าน่าเป็นห่วง เพราะปีนี้ไม่มีรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ส่วนรัฐบาลรักษาการก็ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณใดๆ ได้เลย
ดังนั้น ในฤดูกาลนาปรังปีนี้จึงเชื่อว่าจะไม่มีโครงการรับจำนำข้าวราคาข้าวให้แก่เกษตรกรอย่างแน่นอน 100% นอกจากจะสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้ทันเวลา และปัญหานาปรังนี้จะไปทับถมกับการที่ชาวนาที่ปลูกข้าวนาปีฤดูกาล 2556/2557 ที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำเดิมอีกกว่า 3,500 ล้านบาทด้วย
นายศิริกล่าวอีกว่า สำหรับราคาข้าวนาปรัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นข้าวเจ้า ในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ตันละประมาณ 5,000 บาท ส่วนข้าวเหนียวนาปีถัดไปจะอยู่ที่ตันละประมาณ 7,000 บาทขึ้นไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในช่วงนั้นๆ ด้วย
ถ้าไม่มีโครงการจากรัฐบาลรองรับจึงมีแนวทางแก้ไขคือ ขอให้ผู้ประกอบการท่าข้าวที่มีในพื้นที่รวมกันประมาณ 200 แห่ง ช่วยรับซื้อข้าวจากชาวนาให้ได้มากที่สุดเพื่อให้มีตลาดค้าข้าวสำหรับชาวนาที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตออกมาอีกเป็นจำนวนมากในเร็วๆ นี้ จากนั้นเสนอให้เว้นช่วงปลูกข้าวนาปรังอย่างน้อย 1 ปี เพื่อไม่ให้เกิดภาวะข้าวล้นตลาด
ส่วนที่จะปลูกต่ออีกก็ควรเป็นข้าวที่ให้ราคาสูง เช่น ข้าวเหนียวญี่ปุ่น ซึ่งมีราคาสูงถึงตันละ 14,000-15,000 บาทเป็นหลัก
นายศิริบอกว่า ปัจจุบันตลาดค้าขายข้าวเปลี่ยนไป เพราะพม่า เวียดนาม กัมพูชา เปิดตลาดเสรีกันมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนของเขาต่ำกว่า จึงทำให้การส่งออกข้าวไทยมีปัญหาในอนาคตถ้าเรายังเน้นเรื่องให้มีปริมาณข้าวในแต่ละฤดูกาลมากๆ แต่มีคุณภาพต่ำ เพราะเร่งเก็บเกี่ยว ก็คงจะไปสู้กับตลาดข้าวของประเทศเหล่านี้ไม่ได้
“ผมเห็นว่าการปลูกข้าวที่ผ่านมาชาวนาปลูกข้าวเจ้าพันธุ์สุพรรณกันมาก จึงควรหันมาปลูกข้าวเหนียวพันธุ์ กข 6 หรือ กข 16 เพื่อเพิ่มมูลค่าจะดีกว่า” นายศิริกล่าว