ลำปาง/ตาก - สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ชักชวนเที่ยว “วันช้างไทย สานสายใย คนรักช้าง” ด้านจังหวัดตากชนเผ่าชาวปากะญอร่วมมูลนิธิช้างไทยจัดงานวันอนุรักษ์ช้างไทย “คนยัง...ช้างอยู่” สัตว์ประจำชาติ
วันนี้ (13 มี.ค.) เวลา 08.30 น. ที่ลานด้านหน้าศูนย์ฝึกควาญช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) หรือศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย นายฤทธิพงษ์ เตชะพันธุ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง และนายภาสกร มีวาสนา ผู้อำนวยการสถาบันคชบาลแห่งชาติ เป็ประธานจัดกิจกรรมวันช้างไทย 13 มีนาคม
ช่วงเช้ามีพิธีทางศาสนา โดยการนิมนต์พระสงฆ์ 9 รูป ทำพิธีสวดบังสุกุลอุทิศส่วนกุศลให้แก่ช้างที่ล้ม หลังจากนั้นควาญช้างได้นำช้าง 45 เชือก เดินแถวนำกระเช้าผลไม้ใส่บาตรยักษ์ ก่อนที่พระสงฆ์จะประพรมน้ำพระพุทธมนต์ให้แก่ควาญช้างและช้างเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ควาญ ช้าง และผู้ที่เข้าร่วมพิธี
สำหรับกิจกรรมหลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีทางศาสนาแล้ว อาจารย์พื้นบ้านก็จะทำพิธีฮ้องขวัญช้าง (บายศรีสู่ขวัญ) การจัดเลี้ยงอาหารช้างบนสะโตกใหญ่ กิจกรรมขบวนแห่ช้างเผือก พิธีกรรมแห่งการคารวะต่อธรรมชาติ อธิษฐานขอฝนให้ตกตามฤดูกาลเพียงพอต่อการเพาะปลูก ร่วมด้วยขบวนแห่อาหารช้างขององค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และการรณรงค์หยุดฆ่า หยุดล่า หยุดค้างา ยุติการสังหารสัตว์ป่า โดยเป็นความร่วมมือทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ที่ได้มีโอกาสร่วมแรงร่วมใจกัน ปลุกจิตสำนึก และรณรงค์ให้ประชาชน รักษา ดูแลช้าง ตลอดจนสืบสาน ประเพณี วัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับช้างให้คงอยู่คู่แผ่นดินไทยสืบไป
ด้านจังหวัดตาก มูลนิธิช้างไทย-ชาวไทยภูเขาชนเผ่ากะเหรี่ยงปากะญอ ควาญช้างได้ร่วมกันจัดงานวันอนุรักษ์ ช้างไทย ที่บ้านปูเตอร์ หมู่ 4 ต.แม่กุ อ.แม่สอด ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวปากะญอ ที่เป็นหมู่บ้านต้นแบบการเลี้ยงช้างและเพาะพันธุ์ช้าง โดยการจัดงานครั้งนี้ มีกิจกรรมในวันช้างไทย “คนยัง..ช้างอยู่” เพื่อประกาศเกียรติคุณให้แก่ช้างไทย และยกย่องช้างไทย เป็นช้างที่อยู่คู่เมืองไทยนับแต่โบราณกาลที่นำช้างออกศึกรบกับศัตรู และเผยแพร่ความรู้-กระตุ้นให้ประชาชนทั่วไปตระหนักถึงความสำคัญของช้าง สัตว์สัญลักษณ์ประจำชาติไทย ส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวในท้องถิ่น รวมทั้งการสร้างเครือข่ายอาสาสมัครอนุรักษ์ช้างในท้องถิ่น และเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสืบสานประเพณีท้องถิ่นอันดีงาม โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 1,000 คน
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มองค์กรเอกชนนานาชาติและนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติไปร่วมการจัดกิจกรรมเช่นกัน โดยมีการจัดแสดงวิถีชีวิตระหว่างช้างกับคน ทั้งการกินการอยู่ และการใช้ชีวิตร่วมกัน เช่น การชักลากซุง การขนข้าวสาร การเดินทาง เป็นต้น
รายงานข่าวแจ้งว่า ควาญช้างบ้านปูเตอร์ยังส่งข้อเสนอไปยังมูลนิธิช้างไทยและหน่วยงานภาคราชการ จัดหาพื้นที่ป่าใกล้หมู่บ้านปูเตอร์ เป็นพื้นที่อนุรักษ์และเพาะพันธุ์ช้าง โดยอยากได้บริเวณป่าห้วยระพิ้ง ซึ่งอยู่ใกล้หมู่บ้าน เป็นที่เลี้ยง และเพาะพันธุ์ โดยควาญช้างยืนยันว่าจะไม่ทำลายป่า เนื่องจากในขณะนี้ช้างไม่มีงานทำ จะไปชักลากไม้ก็ผิดกฎหมาย ข้ามไปฝั่งพม่าก็เสี่ยงภัยไปเหยียบกับระเบิด จึงอยากได้ผืนป่าที่เลี้ยงช้าง และเพาะพันธุ์ช้าง โดยจะอนุรักษ์ป่าไม้และทรัพยากรธรรมชาติร่วมกับอนุรักษ์ช้างไทย ช้างอยู่ ป่าอุดมสมบรูณ์ เพราะช้างต้องคู่กับป่า และในป่าต้องมีช้าง ซึ่งใน ช่วงฤดูร้อนและอากาศแห้งแล้ง มีการจุดไฟเผาป่า ช้างก็ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งและหมอกควันจากไฟป่าเช่นกัน จึงมีความจำเป็นต้องหาพื้นที่ เพาะพันธุ์และเลี้ยงช้าง ที่บ้านปากะญอที่ปูเตอร์