พิจิตร - กมธ.เกษตรฯ วุฒิสภาเร่งให้ จนท.รวบรวมหลักฐาน เล็งขอหมายศาลค้นโรงสีตะพานหิน แหล่งซุกข้าวเขมรก่อนส่งสวมสิทธิจำนำข้าว ยันเฝ้าตรวจมานาน 8 เดือนเห็นชัดเจน แฉซ้ำอธิบดีค้าภายในไฟเขียวให้นำเข้าข้าวท่อน-ปลายข้าว แต่กลับยัดไส้ข้าว 5% ขนผ่านจันทบุรี-สระแก้ว
วันนี้ (24 ก.พ.) พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี รองประธานกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการเฝ้าติดตามการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว โดยเฉพาะที่จังหวัดพิจิตรว่า ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของโรงสีในจังหวัดพิจิตรมานานกว่า 8 เดือนแล้ว
กมธ.ได้ข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจนว่ามีการสั่งซื้อข้าวท่อน และปลายข้าวจากประเทศเขมรด้วยวิธีการขออนุญาตจากอธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) และยอมเสียภาษีศุลกากร กก.ละ 1 บาท เป็นข้าวท่อน-ปลายข้าว โดยใช้ชื่อ บริษัท ทวีพรพืชไร่ฯ เป็นผู้สั่งนำเข้ามาทางจังหวัดจันทบุรี และสระแก้ว มีปลายทางส่งมายังโรงสีในเขตอำเภอตะพานหิน จ.พิจิตร จนจับได้ว่าเป็นข้าวสาร 5% คุณภาพต่ำ
พล.ต.ท.ยุทธนาย้ำว่า ขณะนี้มีหลักฐานชัดเจนแล้วว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ซึ่งกำลังรวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน คาดว่าในเร็ววันนี้จะขอหมายศาลเข้าตรวจค้น และถ้ามีหลักฐานเพียงพอก็จะแจ้งความดำเนินคดี และขอหมายศาลจับกุมทันที เนื่องจากเรื่องนี้เป็นคดีเศรษฐกิจที่ทำลายเศรษฐกิจของประเทศ และทำให้รัฐบาลต้องสูญเสียเงินนับหมื่นล้านบาทไปกับการฉ้อฉลที่อาจมีการเวียนเทียนจำนำข้าวในจังหวัดพิจิตร
พล.ต.ท.ยุทธนายังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ที่จริงเรื่องนี้มีการจับกุม และเป็นคดีความแล้ว แต่มีการวิ่งเต้นเส้นสายในระดับพนักงานการจับกุม และพนักงานสอบสวน รวมถึงมีการจ้างปิดข่าวในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
รองประธาน กมธ.เกษตรฯ บอกว่า ประเทศไทยมีข้าวมากมายมหาศาล เต็มโกดัง รัฐบาลอยากระบายขายข้าวใจจะขาดเพื่อจะนำเงินมาหมุนเวียนในโครงการ แต่อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ กลับไปลงนามอนุญาตให้สั่งนำเข้าข้าวท่อน-ปลายข้าวจากเขมร จนเกิดการยัดไส้เป็นข้าวสาร 5% คุณภาพต่ำ ที่ปลายทางระบุว่าส่งให้กับโรงสีหลายแห่งในอำเภอตะพานหิน แต่ตอนนี้ตนเองยังไม่ขอระบุชื่อว่าชื่อโรงสีอะไร เพราะไม่อยากให้เสียแนวทางการสอบสวน
เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2557 กมธ.เกษตรฯ วุฒิสภามาตรวจราชการที่พิจิตร ก็ได้ระบุไปว่าอยากจะขอไปดูโรงสีที่ต้องสงสัยนี้ แต่เจ้าของโรงสีไม่ยอมให้คณะฯ เข้าไปในโรงสี เพราะโรงสีแห่งนั้นไม่ได้เข้าโครงการรับจำนำข้าว เป็นสถานที่ส่วนบุคคลเราจึงเข้าไปไม่ได้
“เมื่อเขาไม่ให้เข้า ก็ไม่เป็นไร เมื่อกลับกรุงเทพฯ จึงให้คณะทำงานเร่งรวบรวมหลักฐาน และจะกลับมาที่จังหวัดพิจิตรอีกครั้งพร้อมกับหมายศาลในเร็ววันนี้”
พล.ต.ท.ยุทธนาบอกอีกว่า จะต้องเอาตัวคนทำลายเศรษฐกิจของชาติมารับโทษให้จงได้ ส่วนที่ว่าใครจะมีความผิดติดร่างแหบ้างนั้นคงจะดูที่เจตนาและการกระทำ โดยเฉพาะเจ้าพนักงานของรัฐที่จะอ้างไม่รู้ไม่เห็น ขาดเจตนา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็คงต้องสอบสวนให้ชัดเจน เราไม่มีอคติกับใคร ขอทำงานตรงไปตรงมา และขอร้องไม่ต้องโทรศัพท์มาเคลียร์หรือส่งคนมาเจรจา แต่ถ้ามาเจรจาก็จะถือว่าคำพูดทุกคำนั้นจะถูกบันทึกไว้พื่อประโยชน์ในรูปคดี
“งานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูอย่างเด็ดขาด”
ด้านนายพงษ์ศักดิ์ นิ้มเจริญ อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร ก็ให้ข้อมูลว่า โรงสีในเขตอำเภอตะพานหินที่ขออนุญาตเป็นโรงงานตามประเภทอุตสาหกรรมนั้นมีขึ้นทะเบียนไว้ 10 โรง ได้แก่ โรงสีไฟจิตรเสริมไทย, จิตเจริญธัญญะ, โรงสีเมฆเกรียงไกร, หจก.เม่งฮง โกลเด้นไรซ์, โรงสีในนามของนายอภิศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ, โรงสีในนามของนายปริญญา ธรรมภรณพิลาศ, ชัยพานิช, โรงสีเม่งฮง 2, โรงสีมิตรเกษตร, โรงสีในนามของนายสมพงษ์ เกตุจันทร์
ด้านนายไพบูลย์ ขันธบุญ การค้าภายในจังหวัดพิจิตร ก็ให้ข้อมูลโรงสีในเขต อ.ตะพานหิน ที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลที่เปิดเผยต่อสาธารณะว่ามีเพียง 2 โรง คือ โรงสีจิตรเจริญธัญญะ และโรงสีพงษ์พิจิตรไรซ์มิลล์