ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยา ในฐานะบอร์ดสนามบินอู่ตะเภา ขอปรับลดค่าบริการลง 50% หลังพบสายการบินแบบเช่าเหมาลำ เพิกถอนการเดินทางไปเป็นจำนวนมาก
วันนี้ (18 ก.พ.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ในฐานะบอร์ดสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา กล่าวถึงความคืบหน้าผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสนามบินอู่ตะเภา-พัทยา ระยอง ว่า ในที่ประชุมล่าสุดได้มีการหารือเกี่ยวกับการขอให้มีการปรับส่วนลดค่าบริการต่างๆ ของสนามบินให้น้อยลง ทั้งเรื่องของค่าภาษีสนามบิน ค่าธรรมเนียมการบริการ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้รับการตำหนิจากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากว่า มาตรฐานการให้บริการ และค่าใช้จ่ายในการนำเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำมาลงยังพื้นที่ของสนามบินอู่ตะเภามีค่าใช้จ่ายสูง จนมีการยกเลิกเที่ยวบินไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และภูมิภาคตะวันออกเป็นอย่างมาก
ผลการหารือในที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับลดค่าบริการลงอีก 50% เพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้มีการเร่งก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ หลังจากผู้รับเหมาประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้แล้วเสร็จ จนทำให้การก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารล่าช้าออกไป โดยตามแบบที่วางไว้นั้น อาคารดังกล่าวจะมีขนาดเทียบเคียงเท่ากับสนามบินพิษณุโลก
อีกทั้งยังได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบสนามบินรวมถึงประตูทางเข้าด้านข้างโรงพยาบาลสม เด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ งบประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนประตูทางเข้าบริเวณถนนสุขุมวิทนั้น ทางทหารเรือขอสงวนไว้ในการใช้งานทางการทหาร
นายอิทธิพล กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนความเป็นไปได้ที่จะมีการนำสายการบินเล็คคูลาร์ไฟลต์มาลงยังสนามบินอู่ตะเภาเพื่อเสริมมาตรฐานการให้บริการ ความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว และรายได้ของสนามบินที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ขณะนี้มีสายการบินเล็คคูลาร์ไฟลต์ที่มีเที่ยวบินลงสนามบินอู่ตะเภาอยู่ 2 สายการบิน คือ พัทยา-ภูเก็ต และพัทยา-สมุย จากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่เหลือจะเป็นสายการบินเช่าเหมาลำจากประเทศจีน รัสเซีย และเกาหลี เป็นหลัก
ในเบื้องต้น ได้มีการประสานงานกับบริษัทการบินแอร์เอเชีย ซึ่งก็พบว่ามีความสนใจที่จะมาเปิดเส้นทางบิน โดยขณะนี้กำลังศึกษาในเรื่องของเส้นทางการบินจากอู่ตะเภาไปยังสถานที่ไหนได้บ้าง สำหรับสายการบินต่างชาตินั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายเที่ยวบิน อย่างเช่นจากเมืองชิงเต่ามายังพัทยา ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานให้มาลงยังสนามบินอู่ตะเภาต่อไป ซึ่งการเปิดเล็คคูลาร์ไฟลต์นั้นจะต้องดูในเรื่องของความสามารถในการรองรับจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินอู่ตะเภาในปัจจุบัน
ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถรองรับเที่ยวบินได้มาก หากการดำเนินก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่แล้วเสร็จ จะมีขนาดเดียวเท่ากับสนามบินพิษณุโลก รองรับเที่ยวบินได้เพิ่มอีก 5 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จะทำให้การเปิดเล็คคูลาร์ไฟลต์ได้เพิ่มขึ้นอีก
วันนี้ (18 ก.พ.) นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ในฐานะบอร์ดสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา-พัทยา กล่าวถึงความคืบหน้าผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสนามบินอู่ตะเภา-พัทยา ระยอง ว่า ในที่ประชุมล่าสุดได้มีการหารือเกี่ยวกับการขอให้มีการปรับส่วนลดค่าบริการต่างๆ ของสนามบินให้น้อยลง ทั้งเรื่องของค่าภาษีสนามบิน ค่าธรรมเนียมการบริการ เนื่องจากที่ผ่านมา ได้รับการตำหนิจากผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมากว่า มาตรฐานการให้บริการ และค่าใช้จ่ายในการนำเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำมาลงยังพื้นที่ของสนามบินอู่ตะเภามีค่าใช้จ่ายสูง จนมีการยกเลิกเที่ยวบินไปจำนวนหนึ่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเมืองพัทยา และภูมิภาคตะวันออกเป็นอย่างมาก
ผลการหารือในที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ปรับลดค่าบริการลงอีก 50% เพื่อลดภาระให้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งจะส่งผลให้สถานการณ์การท่องเที่ยวดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังได้มีการเร่งก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ หลังจากผู้รับเหมาประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินทำให้ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้แล้วเสร็จ จนทำให้การก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารล่าช้าออกไป โดยตามแบบที่วางไว้นั้น อาคารดังกล่าวจะมีขนาดเทียบเคียงเท่ากับสนามบินพิษณุโลก
อีกทั้งยังได้มีการปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบสนามบินรวมถึงประตูทางเข้าด้านข้างโรงพยาบาลสม เด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ งบประมาณ 10 ล้านบาท ส่วนประตูทางเข้าบริเวณถนนสุขุมวิทนั้น ทางทหารเรือขอสงวนไว้ในการใช้งานทางการทหาร
นายอิทธิพล กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วนความเป็นไปได้ที่จะมีการนำสายการบินเล็คคูลาร์ไฟลต์มาลงยังสนามบินอู่ตะเภาเพื่อเสริมมาตรฐานการให้บริการ ความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยว และรายได้ของสนามบินที่จะเพิ่มขึ้นนั้น ขณะนี้มีสายการบินเล็คคูลาร์ไฟลต์ที่มีเที่ยวบินลงสนามบินอู่ตะเภาอยู่ 2 สายการบิน คือ พัทยา-ภูเก็ต และพัทยา-สมุย จากสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ที่เหลือจะเป็นสายการบินเช่าเหมาลำจากประเทศจีน รัสเซีย และเกาหลี เป็นหลัก
ในเบื้องต้น ได้มีการประสานงานกับบริษัทการบินแอร์เอเชีย ซึ่งก็พบว่ามีความสนใจที่จะมาเปิดเส้นทางบิน โดยขณะนี้กำลังศึกษาในเรื่องของเส้นทางการบินจากอู่ตะเภาไปยังสถานที่ไหนได้บ้าง สำหรับสายการบินต่างชาตินั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการขยายเที่ยวบิน อย่างเช่นจากเมืองชิงเต่ามายังพัทยา ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานให้มาลงยังสนามบินอู่ตะเภาต่อไป ซึ่งการเปิดเล็คคูลาร์ไฟลต์นั้นจะต้องดูในเรื่องของความสามารถในการรองรับจำนวนเที่ยวบินที่สนามบินอู่ตะเภาในปัจจุบัน
ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถรองรับเที่ยวบินได้มาก หากการดำเนินก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่แล้วเสร็จ จะมีขนาดเดียวเท่ากับสนามบินพิษณุโลก รองรับเที่ยวบินได้เพิ่มอีก 5 เที่ยวบินต่อชั่วโมง จะทำให้การเปิดเล็คคูลาร์ไฟลต์ได้เพิ่มขึ้นอีก
