ศูนย์ข่าวศรีราชา - กรมสอบสวนคดีพิเศษ บุกจับบริษัททัวร์นำเที่ยวเถื่อน หลังได้รับเรื่องร้องเรียนความเดือนร้อนจากตัวแทนมัคคุเทศก์พัทยา และชลบุรี
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 และกำลังเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันออกกวดขันตรวจสอบกลุ่มบริษัททัวร์ที่มีชาวต่างชาติรัสเซียเป็นผู้ดำเนินกิจการทั่วเมืองพัทยา หลังได้รับเรื่องร้องทุกข์จากกลุ่มตัวแทนมัคคุเทศก์พัทยา และ จ.ชลบุรี ว่ามีชาวรัสเซีย และอื่นๆ ลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพไกด์ ซึ่งเป็นอาชีพสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกลุ่มบริษัททัวร์ที่มีชาวต่างชาติ และคนไทยประกอบธุรกิจต้องห้าม อันเป็นการกีดกันโอกาสของคนไทยในการประกอบอาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทย ตลอดจนกลุ่มที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวด้วยการหลอกลวง ต้มตุ๋น คุกคาม ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ที่นับวันมีความรุนแรงมากขึ้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้กวดขันจับกุมบริษัททัวร์ดังกล่าวในเมืองพัทยา และบางละมุง ซึ่งได้ผู้ต้องหาเป็นผู้ประกอบธุกิจชาวรัสเซีย 7 ราย ควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมประสานขอข้อมูลบริษัทท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นบุคคลต่างด้าว และบุคคลที่เป็นนอมินีอาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ม.8 (3) ซึ่งมีบทลงโทษตาม ม.36 และ ม.37 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท เนื่องจาก พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นความผิดตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ 2547 ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องกำหนดรายชื่อกฎหมายในความรับผิดชอบของสำนักคดีอาญาพิเศษ 3
ภายหลังจากการสอบสวนในเบื้องต้นแล้วจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวรัสเซียทั้ง 7 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
วันนี้ (12 ก.พ.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 นายประวิทย์ ไชยบัวแดง ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษภาค 2 และกำลังเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันออกกวดขันตรวจสอบกลุ่มบริษัททัวร์ที่มีชาวต่างชาติรัสเซียเป็นผู้ดำเนินกิจการทั่วเมืองพัทยา หลังได้รับเรื่องร้องทุกข์จากกลุ่มตัวแทนมัคคุเทศก์พัทยา และ จ.ชลบุรี ว่ามีชาวรัสเซีย และอื่นๆ ลักลอบเข้ามาประกอบอาชีพไกด์ ซึ่งเป็นอาชีพสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกลุ่มบริษัททัวร์ที่มีชาวต่างชาติ และคนไทยประกอบธุรกิจต้องห้าม อันเป็นการกีดกันโอกาสของคนไทยในการประกอบอาชีพที่สงวนไว้ให้คนไทย ตลอดจนกลุ่มที่ประกอบธุรกิจนำเที่ยวที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อเป็นการแก้ปัญหาเกี่ยวกับความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวด้วยการหลอกลวง ต้มตุ๋น คุกคาม ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ที่นับวันมีความรุนแรงมากขึ้น
กรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงได้กวดขันจับกุมบริษัททัวร์ดังกล่าวในเมืองพัทยา และบางละมุง ซึ่งได้ผู้ต้องหาเป็นผู้ประกอบธุกิจชาวรัสเซีย 7 ราย ควบคุมตัวมาสอบสวน พร้อมประสานขอข้อมูลบริษัทท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นบุคคลต่างด้าว และบุคคลที่เป็นนอมินีอาจเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ม.8 (3) ซึ่งมีบทลงโทษตาม ม.36 และ ม.37 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000-1,000,000 บาท เนื่องจาก พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นความผิดตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ 2547 ที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องกำหนดรายชื่อกฎหมายในความรับผิดชอบของสำนักคดีอาญาพิเศษ 3
ภายหลังจากการสอบสวนในเบื้องต้นแล้วจึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนควบคุมตัวผู้ต้องหาชาวรัสเซียทั้ง 7 ราย นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป