xs
xsm
sm
md
lg

ร.ร.เทศบาลวัดราษฏรฯ ให้ค่าแท็บเล็ตแค่สื่อเสริม ชี้อ่านออกเขียนได้ต้องมาก่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางเพ็ยศรี แนะแก้ว
ศูนย์ข่าวศรีราชา - ผอ.โรงเรียนเทศบาลวัดราษฏรนิยมธรรม จ.ชลบุรี ให้ค่าแท็บเล็ตแค่สื่อสนับสนุนการเรียนรู้เด็ก ป.1 เหตุเปิดโลกทัศน์และสร้างการเรียนรู้ใหม่ได้ แต่ยังไม่ใช่แนวทางพัฒนาทักษะการศึกษาอย่างยั่งยืน ชี้เดินนโยบายไม่ต่อเนื่องเท่ากับเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์ และเกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำ ย้ำนโยบาย ร.ร.ต้องฝึกการอ่านออกเขียนได้ด้วยสมอง และมือเป็นสำคัญ

การประกาศปิดตัวของบริษัท เสิ่นเจิ้น อิงถัง อินเทลลิเจ้นท์ คอนโทรล จำกัด ซึ่งชนะการประมูลแท็บเล็ตระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ในโซน 1 (ภาคกลาง และภาคใต้) และโซน 2 (ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) เป็นเหตุให้กระทรวงศึกษาธิการ ต้องยกเลิกสัญญากับบริษัท และประกวดราคาจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-ออกชัน ทั้ง 2 โซนใหม่ โดยใช้คุณสมบัติ และร่างขอบเขตงาน (ทีโออาร์) เดิม พร้อมให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สรุปบทเรียนการดำเนินงาน และวางแนวทางตรวจสอบที่เข้มข้น เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทที่จะเข้าประมูลใหม่มีขีดความสามารถเพียงพอ พร้อมกำหนดปฏิทินดำเนินการว่า จะสามารถส่งมอบแท็บเล็ตปีการศึกษา 2556 ได้ในเดือนมิถุนายน 2557 นั้น

วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากความล่าช้าในการจัดส่งแท็บเล็ตให้แก่โรงเรียนใน จ.ชลบุรี ซึ่งพบว่า โรงเรียนเทศบาลวัดราษฏรนิยมธรรม อ.ศรีราชา ซึ่งเป็นโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองท้องถิ่น ยังไม่ได้รับแท็บเล็ตสำหรับนักเรียนชั้น ป.1 ปีการศึกษา 2556 โดยเหลือเวลาอีกเพียงไม่กี่วันก็จะปิดภาคเรียนที่ 2 แล้ว จึงมีแนวโน้มว่านักเรียนชั้นป.1 อาจได้ใช้แท็บเล็ตในปีการศึกษาหน้า

นางเพ็ญศรี แนะแก้ว ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าวว่า การที่นักเรียนชั้น ป.1 ของโรงเรียนไม่มีแท็บเล็ตใช้ไม่ถือเป็นผลกระทบทางการศึกษา เนื่องจากนโยบายของโรงเรียนมุ่งเน้นการพัฒนาทักษะการเรียนการสอนตามระดับความสามารถของเด็ก โดยให้ความสำคัญกับการอ่านออกเขียนได้เป็นอันดับแรก และวางเป้าหมายการใช้แท็บเล็ตเพียงอุปกรณ์เสริมทักษะการเรียนรู้เท่านั้น

“ถามว่าแท็บเล็ตจำเป็นสำหรับเด็กในวัยนี้หรือไม่ เราควรถามกันตั้งแต่แรกก่อนโครงการจะเกิดขึ้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว เด็กวัยนี้ควรได้รับการพัฒนาทักษะตามลำดับ ให้รู้จักการใช้มือเพื่อเขียนหนังสือมากกว่าการสัมผัสหน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่สำคัญเขาจะต้องได้รับการสอนให้อ่านหนังสือให้ออก ซึ่งโรงเรียนของเราเชื่อมั่นเรื่องการอ่าน และเขียนมากกว่า จึงกำหนดนโยบายการใช้แท็บเล็ตเพียงให้สอดคล้องกับการเรียนในปัจจุบัน และปลูกฝังวิธีคิดที่ถูกต้องให้แก่เด็ก ดังนั้น การที่นักเรียนชั้น ป.1 ของเรายังไม่ได้แท็บเล็ต จึงไม่ถือเป็นเรื่องสำคัญ และหากเขาต้องใช้ในชั้น ป.2 ก็เชื่อว่าเด็กจะสามารถเรียนรู้ได้”

นางเพ็ญศรี ยังกล่าวถึงการเพิ่มแนวทางการตรวจสอบคุณสมบัติของแท็บเล็ตล็อตใหม่ว่า จะทำให้เด็กไทยมีโอกาสที่จะได้รับแท็บเล็ตที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดี แต่นโยบายดังกล่าวจะดียิ่งขึ้น หากการจัดมอบแท็บเล็ตให้แก่โรงเรียนต่างๆ เป็นนโยบายที่ทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดทางการเรียนการสอน ไม่ใช่เป็นเพียงนโยบายทางการเมือง ซึ่งเมื่อเปลี่ยนผู้บริหารก็ยกเลิกไป หากเป็นเช่นนั้นอาจก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างเด็กนักเรียนที่ได้แท็บเล็ต กับเด็กที่ยังไม่ได้ และยังถือเป็นการสูญเสียงบประมาณโดยเปล่าประโยชน์

ขณะที่ นางญาณี เมตตา หัวหน้าสายชั้น ป.1 โรงเรียนเทศบาลวัดราษฏรนิยมธรรม กล่าวว่า การใช้แท็บเล็ตที่ได้ผลจะต้องเกิดจากความพร้อมของโรงเรียน และผู้ปกครอง ที่จะสอนเด็กใช้อย่างถูกวิธี ขณะที่เด็ก ป.1 ยังถือว่าเล็กเกินไป โดยตนยังมีความเชื่อเรื่องการเรียนการสอนแบบเดิม ว่าจะช่วยพัฒนาทักษะด้านการอ่าน และเขียนให้แก่เด็กได้ดีกว่า

โดยโรงเรียนจะต้องเป็นผู้กำหนดแนวทางการใช้แท็บเล็ตที่ถูกต้องให้แก่เด็ก ซึ่งต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ที่จะต้องสละเวลาดูแลบุตรในการใช้แท็บเล็ตอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเทคโนโลยีมีทั้งส่วนดี และส่วนเสีย

“ในความคิดครูเห็นว่าแท็บเล็ตยังไม่จำเป็นสำหรับเด็ก ป.1 และจากการติดตามผลการใช้งานของเด็ก ที่ขณะนี้ขึ้น ป.2 พบว่า มีส่วนน้อยที่ผู้ปกครองเข้ามามีส่วนร่วมกับการเรียนการสอนของทางโรงเรียน ขณะที่ปัญหาที่พบ คือ เด็กบางคนเริ่มไม่นำแท็บเล็ตมาโรงเรียน บางคนลืมชาร์จแบตเตอรี่ เหล่านี้ก็อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนของเด็กได้”

ทั้งนี้ ฝ่ายบริหารของโรงเรียนทั้ง 2 คน ยังมีความหวังว่า การจัดซื้อจัดจ้างแท็บเล็ตล็อตใหม่ให้แก่เด็กนักเรียนได้ใช้ในปีการศึกษาหน้า จะที่ทำเด็กไทยจะได้ใช้คอมพิวเตอร์พกพาที่มีคุณภาพ รวมทั้งจัดอบรมวิธีการใช้ให้กับครูผู้สอนได้เข้าใจ เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนของเด็กไทยให้ก้าวไกลตามเป้าหมายที่กำหนด ไม่ใช่เป็นเพียงละเลงงบประมาณชาติเพื่อใช้ในการหาเสียงของนักการเมืองอีกต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น