คนเชียงใหม่ตามค้าน “กระเช้าลอยฟ้า” ขึ้นดอยสุเทพ ผวา “ขึด” เกิดกาลีบ้าน-กาลีเมือง

เชียงใหม่ - นักวิชาการ มช. นักศึกษา ภาคประชาชน ยื่นเรื่องค้าน “กระเช้าลอยฟ้าขึ้นดอยสุเทพ” เชื่อมไนท์ซาฟารี-ดอยผาดำ-ดอยปุย เผยดันมาแล้ว 2 รอบเจอต้านทั้ง 2 ครั้งยังทำอีก ด้านผู้ว่าฯ ยัน “พิงคนคร” ยังไม่ยุ่ง ย้ำถ้ายังอยู่เชียงใหม่โครงการนี้ต้องไม่หมกเม็ด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (4 ก.พ.) นายอนุชาติ ทะนันชัย นักวิชาการคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประชาชน และนักศึกษาจำนวนหนึ่ง รวมตัวกันยื่นจดหมายเปิดผนึกคัดค้านโครงการกระเช้าลอยฟ้าไนท์ซาฟารี-ดอยผาดำ-ดอยปุย ต่อนายวิเชียร พุฒิวิญญู ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขณะเดินทางมาแถลงข่าวประจำสัปดาห์สัญจรที่มหาวิทยาลัยพายัพ

โดยเนื้อหาในจดหมายระบุว่า ตามที่สำนักงานพัฒนาพิงคนครกำลังดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ว่าจะมีการก่อสร้างกระเช้าไฟฟ้าจากเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-ดอยผาดำ-ดอยปุยนั้น ซึ่งโครงการทำนองนี้มีมาครั้งแรกเมื่อปี 2512 ครั้งที่ 2 ปี 2529 แต่ทั้งสองครั้งก็ถูกคนเชียงใหม่และใกล้เคียงต่อต้านอย่างหนักจนตกไปในที่สุด

เพราะการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าถือว่าเป็นการลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ พระธาตุดอยสุเทพ ประชาชนเชื่อว่าหากดำเนินการจะทำให้ “ขึด” ซึ่งตามภาษาเหนือแปลว่า “เป็นสิ่งไม่ดี” จะเกิดอาเพศกาลีบ้าน กาลีเมือง เกิดสิ่งอัปมงคลขึ้นในเชียงใหม่

สำหรับเหตุผลที่คัดค้าน เนื่องจากเห็นว่าการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าเป็นการบุกรุกธรรมชาติ เส้นทางก่อสร้างอยู่ในเขตอุทยานสุเทพ-ปุย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่ควรนำสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำที่มีความละเอียดอ่อนของระบบนิเวศแล้ว ยิ่งไม่สมควรที่จะกระทำการใดๆ ในพื้นที่ดังกล่าว

นอกจากนี้ป่าเชียงใหม่ก็ลดน้อยลงทุกวัน หน่วยราชการต้องเป็นแบบอย่างในการอนุรักษ์ผืนป่าให้มากที่สุด ไม่ควรจะเดินหน้าโครงการดังกล่าว ประกอบกับการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เมื่อสร้างเสร็จแล้วเสาและสายเคเบิลจะทำลายทัศนียภาพป่าธรรมชาติตลอดระยะทาง 10 กิโลเมตร

ส่วนเหตุผลที่มีการกล่าวอ้างว่ากระเช้าลอยฟ้าจะเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวนั้นไม่น่าจะเป็นความจริง เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเชียงใหม่ต้องการชื่นชมธรรมชาติที่แท้จริงมากกว่า งบประมาณที่จะใช้ในโครงการสร้างกระเช้าลอยฟ้าควรที่จะนำมาปรับปรุงส่งเสริมการท่องเที่ยวเดิมให้มีคุณภาพมากขึ้น รวมทั้งใช้เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจถึง “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” ซึ่งเป็นการพัฒนาอย่างแท้จริง จึงขอคัดค้านโครงการกระเช้าไฟฟ้า

ด้านนายวิเชียร ในฐานะอนุกรรมการฝ่ายจัดหารายได้ สำนักงานพัฒนาพิงคนคร กล่าวว่า หลังจากที่เริ่มมีเสียงคัดค้านเคเบิลคาร์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-ดอยผาดำ-ดอยปุย ซึ่งที่ประชุมบอร์ดสำนักงานพัฒนาพิงคนครมีมติว่าเรายังไม่ไปยุ่ง เพราะอยู่ระหว่างการศึกษาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตอนนี้ทำไนท์ซาฟารีและศูนย์ประชุมนานาชาติให้ดีก่อน ส่วนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวนั้นก็ต้องมาดูเป็นเรื่องไป

“โครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าต้องฟังเสียงประชาชน ไม่ใช่ว่าประชาชนเห็นคัดค้านเราก็จะเดินหน้าทำ ยังเหลืออีกหลายขั้นตอน ตราบใดที่ผมเป็นผู้ว่าฯ อยู่ที่นี่ ผมขอยืนยันว่าโครงการก่อสร้างกระเช้าลอยฟ้าจะไม่มีการหมกเม็ด ปิดบังข้อมูล ทุกอย่างจะต้องทำอย่างโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างให้ประชาชนได้รับทราบ การก่อสร้างเราจะฟังเสียงของประชาชนทุกฝ่าย ทุกภาคส่วนอย่างแน่นนอน”