เชียงราย - กรรมการการเลือกตั้งเชียงราย ยันพร้อมเลือกตั้ง แต่ไม่มั่นใจคนใช้สิทธิเท่าเดิมสถิติเดิม 76.69% หรือไม่
วันนี้ (1 ก.พ.) คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประจำ จ.เชียงราย ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายในการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 2 ก.พ. ทั้ง 7 เขตเลือกตั้ง โดยมีการขนหีบบัตรเลือกตั้ง และอุปกรณ์ต่างๆ ไปยังหน่วยเลือกตั้งทั้งจังหวัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ค่อยคึกคัก ไม่มีป้ายหาเสียงเหมือนเดิม และบรรยากาศของการชุมนุมเพื่อคัดค้านการเลือกตั้ง ส.ส.ก่อนการปฏิรูปที่กรุงเทพฯ จนทำให้หลายฝ่ายไม่มั่นใจว่า จะได้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งหรือไม่
นายเอกชัย เรือนคำ ผอ.กกต.เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายมี 7 เขตเลือกตั้ง และมีหน่วยเลือกตั้ง 1,951 หน่วย ปัจจุบันใช้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วย 23,000 คน แต่หากรวมถึงหน่วยงานที่เข้าไปสนับสนุน กกต.ก็จะมีมากถึงประมาณ 24,000 คน ซึ่งทุกฝ่ายได้ระดมกำลังกันขนส่งคน และอุปกรณ์ไปตามหน่วยต่างๆ อย่างพร้อมเพรียงแล้ว และจนถึงขณะนี้ยังไม่พบปัญหาอุปสรรคใดๆ ทำให้เชื่อว่าการนับคะแนนจะแล้วเสร็จจนทราบผลอย่างไม่เป็นทางการประมาณ 19.00-20.00 น.ของวันเลือกตั้ง
นายเอกชัย กล่าวว่า แต่ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งด้วย ซึ่งตามปกติแล้วจะแล้วเสร็จหลังปิดหีบบัตรเลือกตั้งในเวลา 15.00 น. ไปอีกราว 3 ชั่วโมง และส่งผลไปยัง กกต.เขต และ กกต.จังหวัดให้ได้รับทราบต่อไป
ทั้งนี้ การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านม ามีประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งจำนวน 76.69% ของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่มั่นใจว่าจะมีผู้ไปใช้สิทธิเท่าเดิมหรือไม่ ตอนนี้ก็ได้แต่ตั้งความหวังว่า อยากจะให้ตัวเลขใกล้เคียงกับสถิติเดิม
สำหรับ 7 เขตเลือกตั้งของเชียงราย ประกอบด้วย เขตที่ 1 อ.เชียงราย ยกเว้น 4 ตำบลคือ ต.ห้วยสัก ต.ดอยลาน ต.ท่าสาย และ ต.ป่าอ้อดอนชัย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 136,390 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 236 หน่วย
เขตเลือกตั้งที่ 2 ประกอบ อ.เวียงป่าเป้า อ.แม่สรวย และ อ.แม่ลาว ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 134,938 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 378 หน่วย
เขตเลือกตั้งที่ 3 ประกอบด้วย อ.พาน และ อ.เมือง จาก 4 ตำบลคือ ต.ห้วยสัก ต.ดอยลาน ต.ท่าสาย และ ต.ป่าอ้อดอนชัย ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 139,860 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 336 หน่วย
เขต 4 ประกอบด้วย อ.เทิง อ.เวียงชัย และ อ.ป่าแดด ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 124,110 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 297 หน่วย
เขต 5 ประกอบด้วย อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น อ.พญาเม็งราย และ อ.ขุนตาล ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 129,194 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 288 หน่วย
เขต 6 ประกอบด้วย อ.แม่สาย อ.เชียงแสน อ.ดอยหลวง และ อ.เวียงเชียงรุ้ง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 129,431 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 272 หน่วย
เขตเลือกตั้งที่ 7 ประกอบด้วย 2 อำเภอ คือ อ.แม่จัน และ อ.แม่ฟ้าหลวง ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 108,665 คน มีหน่วยเลือกตั้ง 231 หน่วย รวมแล้วมีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 902,588 คน
อย่างไรก็ตาม การหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ไม่คึกคักมากนัก มีการขึ้นป้ายหาเสียงกันน้อยมาก แม้แต่การปราศรัยหาเสียงโดยแกนนำพรรคเพื่อไทย ก็มีคนดูน้อยนิด และลดลงจนเหลือไม่ถึงร้อยคนในช่วงท้ายด้วย
ขณะที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้งจังหวัดมีแค่ 19 คน คือ เขตเลือกตั้งที่ 1 นายสามารถ แก้วมีชัย อดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย น.ส.วาสนา ณ ป้อมเพ็ชร จากพรรคชาติพัฒนา และ น.ส.ยุรพันธ์ เจนพิทักษ์พงศ์ จากพรรคเพื่อชาติ
เขตเลือกตั้งที่ 2 นางขนิษฐา เจียมวิจักษณ์ จากพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นภรรยาของนายสุรสิทธิ์ เจียมวิจักษณ์ อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทยในสมัยที่ผ่านมา นายชัยธวัช สิทธิสม จากพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นอดีตสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย และเคยเคลื่อนไหวในนามประธานเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกลำไย จ.เชียงราย และ น.ส.นารากร ณ ป้อมเพ็ชร จากพรรคชาติพัฒนา
เขต 3 น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ อดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย นายประดิษฐ์ ศรีอ้วน จากพรรคชาติพัฒนา
เขตเลือกตั้งที่ 4 นายรังสรรค์ วันไชยธนวงศ์ อดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย นายเกียรติศักดิ์ อุดขา จากพรรคชาติพัฒนา
เขต 5 นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย นายสมพงค์ อันพาพรม อดีตผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย เขต 1 พรรคประชาธิปัตย์ แต่ครั้งนี้ลงสมัครในนามพรรคชาติพัฒนา นายบัวสอน ประชามอญ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน แต่ครั้งนี้ลงสมัครในนามพรรคชาติไทยพัฒนา และนายธีรพงษ์ เผ่ากา อดีตผู้สมัคร ส.ส.หลายสมัยจากหลายพรรค โดยมีฐานเสียงสำคัญในเขต อ.พาน ครั้งนี้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อชาติ
เขต 6 นายอิทธิเดช แก้วหลวง อดีต ส.ส.จากพรรคเพื่อไทย นางสุปราณี หอมรส จากพรรคชาติพัฒนา และ น.ส.ยุรพิน เจนพิทักษ์พงศ์ จากพรรคเพื่อชาติ
เขต 7 น.ส.ละออง ติยะไพรัช อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นน้องสาวของนายยงยุทธ ติยะไพรัช นักการเมืองชื่อดัง และนายวิษณุภตฆ์ พีรเจริญวงส์ จากพรรคชาติพัฒนา