ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - มช.เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค ปี 2557 ชูหัวข้อ “วิจัยเพื่อการเรียนรู้ สู่การนำไปใช้ประโยชน์” วันที่ 12-14 มี.ค. มุ่งผลักดันผลงานวิจัยสู่การนำไปใช้จริง เพื่อพัฒนาภาคเหนืออย่างรอบด้าน
วันนี้ (29 ม.ค.) ที่สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) รองศาสตราจารย์ ดร.เสริมเกียรติ จอมจันทร์ยอง รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ รองศาสตราจารย์ ดร.อาวรณ์ โอภาสพัฒนกิจ ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย และ น.ส.สุกัญญา ธีระกูรณ์เลิศ รองเลขาธิการสภาวิจัยแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมงานวิจัยส่วนภูมิภาค ประจำปี 2557 ในหัวข้อ “วิจัยเพื่อการเรียนรู้ สู่การนำไปใช้ประโยชน์” ระหว่างวันที่ 12-14 มีนาคม ที่หอประชุม มช.
โดยการจัดงานครั้งนี้เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานวิจัย และกิจกรรมจากความร่วมมือของเครือข่ายระบบวิจัยในภาคเหนือสู่การใช้ประโยชน์ในเวทีระดับภูมิภาค และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การจัดงานมหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ ประจำปี 2557 ซึ่งจัดโดยสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ และเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศ รูปแบบการจัดกิจกรรม ประกอบด้วย การประชุม การจัดนิทรรศการ และการถ่ายทอดเผยแพร่การวิจัยและขยายผลการวิจัยในรูปแบบอื่นๆ ภายใต้ 13 หัวข้อหลัก
เช่น การประยุกต์ใช้เศรษฐกิจพอเพียง ความมั่นคงของรัฐและการเสริมสร้างธรรมาภิบาล, การปฏิรูปการศึกษา, การจัดการน้ำ, การพัฒนาพลังงานทดแทน, การป้องกันโรคและการรักษาสุขภาพ เป็นต้น
ทั้งนี้ เนื้อหาการจัดงานจะเป็นประเด็นการวิจัย ประกอบด้วย การวิจัยที่สนับสนุนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และองค์ความรู้แก้ปัญหาสังคมภาคเหนือ การวิจัยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนภาคเหนือ การวิจัยเพื่อสนับสนุนการดำรงฐานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลยั่งยืน การวิจัยเพื่อสนับสนุนการใช้ภูมิปัญญา และวิทยาการสู่การพึ่งพาตนเอง และการจัดการพื้นที่เมือง ชนบท พื้นที่สูง และชายแดนภาคเหนือ การวิจัยเพื่อพัฒนาระบบและกลไกบริหารเป็นภูมิคุ้มกัน และสร้างความมั่นคงของท้องถิ่นและจังหวัดภาคเหนือ
สำหรับกลุ่มเป้าหมายของการจัดงานครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้จัดแสดงงานวิจัย ได้แก่ สถาบันอุดมศึกษาทั่วภาคเหนือ เครือข่ายสภาอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการสินค้าและผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนผู้ใช้งานวิจัย ได้แก่ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ผู้ประกอบการธุรกิจภาคเอกชน และประชาชนผู้สนใจทั่วไป คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 1,500 คน