เชียงราย - กมธ.ตรวจสต๊อกข้าวเชียงราย เผยจำนำข้าวมีเงินหาย 4 แสนล้าน ปีนี้ยอดจำนำ 1.9 แสนล้าน แต่รัฐจ่ายแค่ 5 หมื่นล้าน ทำชาวนาแห้วทั่ว ปท.ขณะที่ ธ.ก.ส.เชียงราย รับปีนี้รัฐโอนเงินให้แค่ 8 ครั้ง แถมยอดน้อยลงเรื่อยๆ ด้านเกษตรกรจวกซ้ำนโยบายให้ชาวกู้เงินตัวเองมาใช้ ต้องแบกดอกเบี้ยซ้ำอีก
พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี รองประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา และคณะอนุกรรมาธิการฯ ได้เดินทางไปติดตามการระบายข้าวสารในสต๊อกของรัฐบาลตามโครงการรับจำนำข้าว ปี 2556/57 ซึ่งกำลังมีปัญหาในการจ่ายเงินค่าจำนำให้แก่ชาวนาอยู่ในขณะนี้ ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย สุดสัปดาห์นี้ โดยมีนายชาติชาย สงวนพงษ์ ปลัด จ.เชียงราย นำตัวแทนจากภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงผู้ประกอบการโรงสี และตัวแทนเกษตรกรเข้าให้ข้อมูล
พล.ต.ท.ยุทธนา กล่าวว่า ปีนี้เชียงรายเกิดปัญหาเรื่องการร้องเรียนข้าว และข้าวโพดมาแล้วถึง 4 ครั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้ เคยเตือนรัฐบาลหลายครั้งให้พิจารณาปรับปรุง เข้มงวดกวดขัน เพราะมีปัญหาในเรื่องการรับจำนำ กระทั่งกลายมาเป็นปัญหาในการระบายข้าว และรัฐบาลต้องเสียค่าใช้จ่ายกว่า 6 แสนล้านบาท แต่ชาวนาได้ประโยชน์จริงเพียง 2 แสนล้านบาท
คณะกรรมาธิการฯ จึงได้ติดตามว่าเงินอีก 4 แสนล้านบาทนั้นหายไปไหน เพราะเป็นห่วงว่าเม็ดเงินดังกล่าวที่ขาดหายไปนั้นจะสามารถนำไปจ่ายให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อนำไปให้ชาวนาให้ครบได้อย่างไร
พล.ต.ท.ยุทธนา กล่าวว่า ยอดเงินการจำนำสูงถึง 1.9 แสนล้านบาท แต่ทาง ธ.ก.ส.ได้รับเงินเพื่อจ่ายให้ชาวนาเพียงประมาณ 5 หมื่นล้านบาท ที่เหลือจึงเป็นปัญหาที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมกันแก้ไข เพราะข้าวถูกระบายไปหมดแล้ว ส่วนที่เหลือในสต๊อกก็เป็นข้าวเก่าที่อาจขายไม่ได้ราคา ซึ่ง กมธ.ก็จะนำข้อเท็จจริงที่ได้ไปประกอบการชุมใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหาในวันที่ 5 ก.พ.นี้ต่อไป
นายชาติชาย กล่าวว่า เชียงรายมีพื้นที่เพาะปลูกข้าว จำนวน 1.3 ล้านไร่ ผลผลิตรวม 9.1 แสนตัน มีเกษตรกรขึ้นทะเบียนจำนำข้าวกับรัฐบาลรวม 89,948 ราย ปริมาณข้าว 397,003,125 ตัน เป็นวงเงินกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งทาง ธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินให้แก่ชาวนาไปแล้ว 3,520 ล้านบาท ยังคงมียอดค้างจ่ายอีกประมาณ 2,765 ล้านบาท ทั้งนี้ เดิมมีปัญหาเรื่องการลงทะเบียนทำให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน หรือมีหักเรื่องสิ่งเจือปน และหักความชื้นมากเกินไป ทางจังหวัดก็ได้แก้ปัญหาโดยติดตั้งกล้องวงจรปิด และเครื่องตรวจวัดความชื้นเพื่อแก้ไขแล้ว
สำหรับชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินนั้น ทางจังหวัดฯ ได้ขอความร่วมมือจากชาวนาไม่ให้ชุมนุมปิดถนนซึ่งจะสร้างผลกระทบเพิ่มขึ้นอีก และอยากเสนอให้มีการกำหนดราคาในการจำนำ แล้วแยกให้โรงสีรายย่อยที่มีศักยภาพในพื้นที่ประมูลตามกำลัง ไม่ดำเนินการแบบเหมารวมหลายหมื่นล้านบาท เพราะโรงสีตามต่างจังหวัดไม่สามารถทำได้ หากปลดล็อกด้วยการให้โรงสีตามต่างจังหวัดประมูลข้าวได้เอง เชื่อว่าจะทำให้การสามารถระบายข้าวมีประสิทธิภาพ และมีเงินมาจ่ายชาวนาได้
ขณะที่ นายปราโมท พงษ์สุวรรณ ผู้ประสานงาน ธ.ก.ส.เชียงราย กล่าวว่า เมื่อปี 2556 ธ.ก.ส.ได้จ่ายเงินค่าจำนำข้าวไปแล้ว 13,500 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่พบปัญหา แต่ปีนี้มีปัญหาเพราะข้อจำกัดของวงเงินทำให้ ธ.ก.ส.ไม่สามารถจ่ายเป็นก้อนโตให้ชาวนาได้ โดยเงินอุดหนุนจากรัฐบาลมีไม่พอ โดยจัดสรรมาเพียง 8 ครั้งๆ ละประมาณ 200-300 ล้านบาท รวมทั้งยังลดลงเรื่อยๆ จนงวดสุดท้ายได้รับเพียงประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งก็ได้จ่ายให้เกษตรกรไปหมดแล้ว จากนั้นก็ไม่ได้รับเงินอุดหนุนเพิ่มเติมอีก
นายกิตติพงษ์ ฉัตรหลวง ประธานสภาเกษตรกร จ.เชียงราย กล่าวว่า ขณะนี้ชาวนาในพื้นที่เดือดร้อนมาก เพราะขายข้าวแล้วไม่ได้รับเงิน แต่ ธ.ก.ส.กลับเสนอให้ชาวนานำใบประทวนไปขอกู้เงินได้ในวงเงิน 20-30% ของมูลค่าตามใบประทวน โดยยังคิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ซึ่งเท่ากับว่า เป็นการกู้เงินตัวเองมาใช้จ่าย และยังต้องแบกภาระดอกเบี้ยเพิ่มอีกซึ่งไม่ยุติธรรม และเรียกร้องให้รัฐบาลหาเงินมาจ่ายค่าข้าวให้ชาวนาโดยเร็วที่สุด
