ศรีสะเกษ - จนท.ชุดเฉพาะกิจ ตร.-ทหาร อ.ภูสิงห์ บุกทลายเครือข่ายค้ายาเสพติด และแก๊งขโมย จยย.ชำแหละชิ้นส่วนรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดของกลางยาเสพติด อาวุธปืนสงคราม จยย.30 คัน รวมทั้งชิ้นส่วน จยย.ถูกชำแหละเป็นจำนวนมาก รวบผู้ต้องหาได้ 4 ราย ส่วนหัวโจกไหวตัวปีนหน้าต่างหนี ทิ้งพ่อแท้ๆ รับกรรมแทน
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (15 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.ภูสิงห์ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พ.ต.อ.ดนัย รัตนประเสริฐ ผกก.สภ.ภูสิงห์ พร้อมด้วย พ.อ.ยงยุทธ ขันทวี รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี แถลงผลการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดและเป็นแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์ ชำแหละชิ้นส่วนรายใหญ่ ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ชายแดนไทย-กัมพูชา ได้ผู้ต้องหา 4 ราย ที่บ้านเลขที่ 9 ม.13 บ้านโคกสะอาด ต.ตะเคียนราม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
ประกอบด้วย นายวิน บังคม อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.13 บ้านโคกสะอาด ต.ตะเคียนราม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายวิทยา พิศวงศ์ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 221 ม.6 ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายเฉลิมชัย ตั้งใจ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.13 ต.ตะเคียนราม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ นายอันนพ บุญขาว อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม.13 ต.ตะเคียนราม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ และผู้ต้องหาหญิง คือ น.ส.สายฝน อุดมศรี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 247 ม.1 ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม อีก 1 ราย คือ นายสมเกียรติ บังคม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.9 ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
จากการตรวจค้นภายในบ้านพบของกลาง ประกอบด้วย ยาไอซ์ จำนวน 2.8 กรัม ยาบ้า จำนวน 270 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพ และสามารถตรวจยึดอาวุธปืนสงคราม อาก้า จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืนอาก้า 26 นัด อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 11 นัด และลูกกระสุนปืน .38 แบบทำเอง 21 นัด ปลอกลูกปืน .38 จำนวน 100 นัด มีดซาบาต้า 1 เล่ม สมุดบัญชีธนาคาร และบัตรเอทีเอ็มธนาคาร หลายสาขา พร้อมหนังสือคู่มือรถจักรยานยนต์ 6 เล่ม โทรศัพท์มือถือ 6 เครื่องโน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และ แท็บเล็ต จำนวน 2 เครื่อง
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังได้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ ซึ่งผู้ต้องหาได้แจ้งว่า เป็นรถจักรยานยนต์ ที่มีคนรู้จักเอามาจำนำไว้อีกจำนวน 30 คัน อะไหล่ชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ที่ถูกชำแหละแล้วอีกจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังได้ตรวจยึดรถกระบะมาสด้า รุ่นไฟเตอร์ 4 ประตู สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ภร 5642 กรุงเทพมหานคร รถยนต์เก๋ง โตโยต้า รุ่นโคโรล่า สีดำ หมายเลขทะเบียน กฉ 2148 ปทุมธานี ซึ่งเป็นรถยนต์ที่จอดไว้ภายในบ้านของผู้ต้องหา
พ.ต.อ.ดนัย รัตนประเสริฐ ผกก.สภ.ภูสิงห์ เปิดเผยว่า สำหรับการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติด และแก๊งขโมยรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากประชาชนจำนวน 3 ราย ว่า ได้ถูกโจรขโมยรถจักรยานยนต์ไป จำนวน 3 คัน และต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องหาขโมยรถดังกล่าวได้จำนวน 1 ราย ซึ่งผู้ต้องหาได้ให้การว่า ได้ขโมยรถจักรยานยนต์ไปจริง แต่ขโมยไปเพียงคันเดียว และได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า รถจักรยานยนต์ที่หายไปนั้น อาจไปอยู่ที่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 13 ต.ตะเคียนราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าว มี นายสมเกียรติ บังคม อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้าน รับซื้อ รับจำนำรถจักรยานยนต์ และยังขายยาบ้าอีกด้วย
จากนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาล จ.ศรีสะเกษ เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว โดยในวันนี้ (15 ธ.ค.) เวลาประมาณ 06.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ ได้สนธิกำลังกับทหารจากหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 เจ้าหน้าที่ BLO อ.ภูสิงห์ และ อาสาสมัครรักษาดินแดน (อ.ส.) อ.ภูสิงห์ พร้อมอาวุธปืนครบมือ ได้เข้าไปตรวจค้นภายในบ้านของผู้ต้องหา โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ได้บุกเข้าไปภายในบริเวณตัวบ้าน พบว่า มีทั้งยาเสพติด รถจักรยานยนต์ อาวุธปืน และเครื่องกระสุนจำนวนมาก ซึ่งลูกกระสุนขนาด .38 ที่พบ เป็นลูกกระสุนที่ผู้ต้องหานำปลอกกระสุนที่ไม่ได้ใช้มาประดิษฐ์ให้สามารถใช้งานได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาที่พบอยู่ภายในบ้าน คือ นายสวิน บังคม เจ้าของบ้าน น.ส.สายฝน อุดมศรี อายุ 19 ปี นายอรรณพ บุญขาว อายุ 19 ปี และนายเฉลิมชัย ตั้งใจ อายุ 22 ปี มาทำการสอบปากคำ และตรวจสารเสพติด ซึ่งพบว่า น.ส.สายฝน อุดมศรี อายุ 19 ปี นายอรรณพ บุญขาว อายุ 19 ปี และนายเฉลิมชัย ตั้งใจ อายุ 22 ปี มีปัสสาวะเป็นสีม่วง ส่วน นายสมเกียรติ บังคม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ เกิดไหวตัวทัน และอาศัยช่วงชุลมุนกระโดดหน้าต่างหลบหนีไป พร้อมกับโยนความผิดให้พ่อแท้ๆ ล่าสุดเจ้าหน้าที่เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปแล้ว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งขอหากับ นายสวิน บังคม เจ้าของบ้านว่า มียาไอ และยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย พร้อมกับมีอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน น.ส.สายฝน อุดมศรี, นายอรรณพ บุญขาว และ นายเฉลิมชัย ตั้งใจ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาว่า เสพยาเสพติด ก่อนนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย พร้อมของกลาง ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป