รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษโร่พบแม่ทัพเขมรถึงบ้านพัก ยันไม่เกิดสงคราม “เขาพระวิหาร”

ศรีสะเกษ - รองผู้ว่าฯ ศรีสะเกษนำคณะโร่เข้าพบ “พล.อ.เจีย มอน” บิ๊กทหารเขมรถึงบ้านพักส่วนตัวบริเวณช่องสะงำ ชายแดนกัมพูชา-ไทย ด้านแม่ทัพเขมรยันไม่เกิดสงครามเขาพระวิหาร ขณะชาวเขมรเฝ้าเกาะติดชมศาลโลกตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ไม่อพยพหนีออกจากชายแดน

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (11 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดผ่านด่านถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และคณะ ได้เดินทางไปพบกับ พล.อ.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา และคณะ ประกอบด้วย พล.ท.นวน โนว์ รอง ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 นายสาน วันนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย นายยิ้ม พันนา นอภ.อัลลองเวง ประเทศกัมพูชา ที่บ้านพักส่วนตัวบริเวณช่องสะงำ ชายแดนกัมพูชา-ไทย

ทั้งนี้ นายสุริยะ และ พล.อ.เจีย มอนได้มีการพบปะหารือกันและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในการที่จะส่งเสริมสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันระหว่างชาวไทยกับชาวกัมพูชาตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามนโยบายของรัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น

พล.อ.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 กัมพูชา กล่าวว่า สถานการณ์ตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยยังคงปกติ และทหารกัมพูชาไม่ได้มีการเสริมกำลังกันแต่อย่างใด รวมทั้งประชาชนชาวกัมพูชาก็ไม่ได้มีการอพยพออกไปจากบริเวณช่องสะงำ หรืออพยพออกจากทุกหมู่บ้านที่อยู่ในเขตชายแดนกัมพูชาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ ไม่ว่าผลการพิพากษาของศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารจะมีผลออกมาอย่างไร ประชาชนชาวกัมพูชาและชาวไทยก็ยังคงอยู่กันตามปกติ และจะไม่มีการสู้รบกันเกิดขึ้นตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณเขาพระวิหาร

“การแก้ไขปัญหาให้เป็นเรื่องของรัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยที่จะต้องปรึกษาหารือกัน ทหารกัมพูชาจะปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างสันติสุขร่วมกันตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยเป็นสิ่งสำคัญมาก และทหารทั้งสองฝ่ายก็ไปมาหาสู่พบปะกันตามปกติและมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน” พล.อ.เจีย มอนกล่าว

นายสุริยะ อมรโรจน์วรวุฒิ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจาก นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ให้มาพบปะกับรองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรมีชัย และพบปะกับ พล.อ.เจีย มอน ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา โดยได้นำเอานโยบายของรัฐบาลไทยในการที่จะส่งเสริมสร้างสันติสุขระหว่างไทยกับกัมพูชามาแจ้งให้ทางฝ่ายกัมพูชาได้รับทราบด้วย ซึ่งจากการพบปะหารือกันแล้ว เป็นที่มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการสู้รบกันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยที่บริเวณเขาพระวิหารและตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างแน่นอน

“อีกทั้งผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชาก็ยืนยันว่าจะรักษาสันติภาพร่วมกัน เป็นมิตรไมตรีที่ดีต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก” นายสุริยะกล่าว

ทางด้าน นางกวง สกุลที อายุ 30 ปี ชาว อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา กล่าวว่า การที่จะมีการอ่านคำพิพากษาของศาลโลกคดีปราสาทพระวิหารนั้น ตนรู้สึกเฉย ๆ เพราะเชื่อว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น ไม่ว่าผลการพิพากษาของศาลโลกจะออกมาเช่นไร เนื่องจากขณะนี้รัฐบาลกัมพูชากับรัฐบาลไทยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก จึงไม่น่าเชื่อว่าจะมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นตามแนวชายแดนกัมพูชา-ไทยอย่างแน่นอน และพวกตนก็ไม่ได้อพยพออกไปจากบริเวณชายแดนช่องสะงำแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ตามบริเวณร้านค้าและบ้านเรือนของชาวกัมพูชาที่บริเวณช่องสะงำ ชายแดนกัมพูชา-ไทย ต่างพากันเฝ้าติดตามข่าวความเคลื่อนไหวกรณีศาลโลกอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารกันอย่างต่อเนื่อง และไม่มีชาวกัมพูชาอพยพออกไปจากบริเวณช่องสะงำแต่อย่างใด เนื่องจากชาวกัมพูชาทุกคนมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น

อีกทั้ง พล.อ.เจีย มอน ผบ.ภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ที่คุมกำลังทหารกัมพูชาบริเวณนี้ยังพักอยู่ที่บ้านพักส่วนตัวบริเวณช่องสะงำ ชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ชาวกัมพูชาไม่วิตกกังวลว่าจะเกิดสงครามระหว่างกัมพูชา-ไทยอย่างแน่นอน