xs
xsm
sm
md
lg

สพป.บุรีรัมย์เขต 2 สั่งปิด ร.ร.ชายแดนกว่า 40 แห่ง 2 วัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลุมหลบภัยตามโรงเรียนต่างๆ ขณะนี้ มีความพร้อมที่จะรองรับ หากเกิดปัญหาในพื้นที่
บุรีรัมย์ - สพป.บุรีรัมย์ เขต 2 สั่งปิดโรงเรียนชายแดนกว่า 40 แห่ง หวั่นผลกระทบจากเหตุสู้รบไทย-กัมพูชา 11-12 พ.ย.นี้ ช่วงที่ศาลโลกนัดพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร แต่ยังให้ครู และผู้บริหารมาโรงเรียนตามปกติ พร้อมจัดเวรยามดูแลตลอด 24 ชม. และประสานทางอำเภอติดตามสถานการณ์ต่อเนื่อง

เหลือเวลาอีกเพียงวันเดียวจะถึงวันที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก นัดอ่านคำพิพากษาตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร จ.ศรีสะเกษ (11 พ.ย.) ซึ่งหลายฝ่ายต่างก็รอลุ้นผลการตัดสิน และเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

เช่นเดียวกับทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) บุรีรัมย์ เขต 2 ล่าสุด ก็ได้ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้บริหารสถานศึกษาที่อยู่ในความดูแลกว่า 40 แห่ง ที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอบ้านกรวด ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ให้ปิดเรียนเป็นกรณีพิเศษเป็นเวลา 2 วัน คือ วันที่ 11-12 พ.ย.2556 ซึ่งเป็นช่วงที่ศาลโลกจะตัดสินคดีพื้นที่ทับซ้อนปราสาทพระวิหาร เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ และผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นหากเกิดภัยสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา

ส่วนครู และผู้บริหารโรงเรียนทั้งกว่า 40 แห่งดังกล่าว ยังต้องมาประจำอยู่ที่โรงเรียนตามปกติ พร้อมให้มีการจัดเวรยามเฝ้าดูแลโรงเรียนตลอด 24 ชั่วโมงด้วย หากมีเหตุการณ์ผิดปกติก็ให้รายงานทางสำนักงานพื้นที่การศึกษาฯ ทราบทันที พร้อมกันนี้ ยังกำชับให้ประสานกับอำเภอ เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวเหตุการณ์ตามแนวชายแดนเพื่อประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

นายสมศักดิ์ ชอบทำดี ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ระบุว่า หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัด ได้ลงพื้นที่มาประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อ.บ้านกรวด เมื่อวันที่ 7 พ.ย.ที่ผ่านมา ก็ได้เสนอให้ทางเขตการศึกษาฯ พิจารณาสั่งปิดโรงเรียนตามชายแดนทั้งกว่า 40 แห่งดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน

โดยหากเกิดเหตุการณ์สู้รบขึ้น เด็กนักเรียนจะได้อยู่กับผู้ปกครอง และจะได้สามารถอพยพได้อย่างทันท่วงที ส่วนในวันที่หยุดเรียนก็จะให้ทางโรงเรียนจัดทำการเรียนสอนชดเชยให้ในภายหลัง

ด้าน น.ส.ดวงรัตน์ เฮียะประโคน นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านโคกกะชาย บอกว่า ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์สู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา เหมือนกับปี 2553 ที่มีระเบิดตกใส่ในหมู่บ้าน และโรงเรียนได้รับความเสียหาย จนต้องมีการอพยพ โดยตนเอง และครอบครัวต่างต้องอพยพไปคนละทิศละทาง และเหตุการณ์ครั้งนั้นยังสร้างความหวาดผวาให้แก่ตน และครอบครัว จึงภาวนาไม่อยากให้เกิดขึ้นซ้ำอีก
บางส่วนของโรงเรียนที่ถูกสั่งปิด 2 วัน

กำลังโหลดความคิดเห็น