สภาทนายความฯ รับว่าความให้ชาวประมงเรือเล็ก-แม่ค้าที่ได้รับผลกระทบท่อน้ำมันดิบรั่วไหล

ระยอง - สภาทนายความฯ รับว่าความฟ้องเรียกค่าเสียหายให้กลุ่มประมงเรือเล็ก และกลุ่มแม่ค้า ที่ได้รับผลกระทบท่อน้ำมันดิบรั่วไหลในทะเล

วันนี้ (9 พ.ย.) ที่บริเวณวัดปากน้ำ ต.ปากน้ำ เขตเทศบาลนครระยอง มีกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก และกลุ่มร้านค้าหาดแม่รำพึง และกลุ่มแม่ค้าขายกุ้ง หอย ปู ปลา จำนวน 400 คน มารอรับความช่วยเหลือจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในการฟ้องร้องเรื่องการเยียวยาอย่างเป็นธรรม

นายจตุรัส เอี่ยมวรนิรันดร์ นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็ก จ.ระยอง กล่าวว่า สมาคมประมงฯ ได้เชิญสภาทนายความแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และกลุ่มกรีนพีซ มาให้ความรู้เรื่องสิทธิประโยชน์ของกลุ่มประมง และกลุ่มแม่ค้าที่ได้รับผลกระทบท่อน้ำมันดิบของบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) รั่วไหลในทะเลเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา มีอะไรบ้าง และจะมีการฟ้องร้องบริษัทที่ก่อให้เกิดผลกระทบจากท่อน้ำมันดิบรั่วไหลได้อย่างไร และผู้ที่ได้รับผลกระทบครั้งนี้ที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา ไม่ใช่ต้องมาเป็นผู้ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรอง เพราะเขาเหล่านั้นเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่ตกเป็นจำเลย

วันนี้ ทางสภาทนายความฯ จะมาให้ความรู้ในเรื่องกฏหมาย และการเรียกร้องความเป็นธรรม เรื่องฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทุกวันนี้บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องแผนฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยที่ไม่มีประชาชน รวมทั้งองค์กร และนักวิชาการอิสระเข้ามามีส่วนร่วมแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่าไม่มีความจริงใจในการที่จะฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

รวมทั้งการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกวันนี้ยังจ่ายไม่ครบถ้วน ยังเหลืออีกจำนวนมาก เวลาได้ล่วงเลยมาเป็นเวลา 3 เดือนเศษ ผลกระทบก็ยังมีอยู่โดยเฉพาะกลุ่มอาชีพประมง ทรัพยากรสัตว์น้ำนับวันยิ่งลดลงทุกวัน เรือประมงออกไปหากินไม่ค่อยได้เนื่องจากสัตว์น้ำหายาก ส่งผลกระทบไปถึงแม่ค้าขายอาหารทะเลสด เรื่องนี้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงเป็นลูกโซ่

ด้านนายสุวิทย์ เชยอุบล อุปนายกฝ่ายปฏิบัติการ ประธานคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมและคณะทำงานคดีสิ่งแวดล้อม สภาทนายความแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า ทางสภาทนายความฯ ยินดีรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากกลุ่มประมงพื้นบ้าน และกลุ่มแม่ค้า และพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือ ในส่วนความช่วยเหลือของสภาทนายความฯ พวกท่านได้รับความเดือดร้อนจากการละเมิด และเข้าหลักเกณฑ์จะฟ้องในเรื่องคดีให้ ในส่วนของการฟ้องคดีด้านสิ่งแวดล้อม คณะทำงานโดยทนายความอาสาของเรามีจำนวนนับ 100 คน จึงมีความพร้อมสามารถช่วยเหลือได้

ในวันนี้มารับฟังปัญหา และความเดือดร้อนของทุกคนว่าแต่ละคนมีความเดือดร้อนได้รับความเสียหายอย่างไร สภาทนายความฯ จะช่วยเหลือได้อย่างไรบ้างโดยไม่ต้องเสียค่าทนายความ แต่ถ้าหากว่ามีค่าใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมศาล ตรงนี้พวกท่านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ แต่ถ้าค่าธรรมเนียมศาลมีจำนวนมากก็จะขอเรื่องการยกเว้นต่อศาลให้แก่พวกท่าน แต่ถ้าเรียกร้องค่าเสียหายแต่ละรายไม่เกินรายละ 300,000 บาท ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล