บุรีรัมย์ - นายอำเภอบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เรียกประชุมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านแนวชายแดนไทย-กัมพูชาเพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจเตรียมรับมือภัยสู้รบที่อาจเกิดขึ้นจากศาลโลกพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร 11 พ.ย.นี้ พร้อมเตรียมแผนอพยพ ปชช. 25 หมู่บ้านเสี่ยงภัยหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
วันนี้ (4 พ.ย.) นายชัยณรงค์ บุญวิวัฒนาการ นายอำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทั้ง 9 ตำบล 115 หมู่บ้านในพื้นที่ อ.บ้านกรวด ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ที่หอประชุม ที่ว่าการอำเภอบ้านกรวด เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจและเตรียมรับสถานการณ์กรณีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก กำหนดอ่านคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.นี้
รวมทั้งเป็นการทบทวนบทบาทหน้าที่ของกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้สามารถเป็นผู้นำประชาชนในการเฝ้าระวังดูแลป้องกันตนเองจากภัยสู้รบที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้ประชาชนเกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
ขณะที่สถานการณ์ตามแนวชายแดนในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีพื้นที่ติดชายแดนประเทศกัมพูชา 2 อำเภอ คือ อ.บ้านกรวด และ อ.ละหานทราย ขณะนี้ยังเป็นปกติไม่มีการตรึงกำลังแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ อย่าได้ตื่นตระหนกจนเกินไป และขอให้ติดตามข่าวสารจากทางราชการเท่านั้นอย่าหลงเชื่อข่าวลือ
นายชัยณรงค์ บุญวิวัฒนาการ นายอำเภอบ้านกรวด กล่าวว่า จากสถานการณ์ที่เคยเกิดเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา เมื่อปี 2554 และกรณีที่ศาลโลกนัดพิจารณาคดีปราสาทพระวิหาร ในวันที่ 11 พ.ย.ที่จะถึงนี้ ทางอำเภอจึงได้มีการเตรียมแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง โดยการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2554 ที่ได้มีระเบิดตกใส่บ้านเรือนประชาชนพังเสียหายหลายหลังและมีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือภัยสู้รบที่อาจเกิดขึ้นทั้งก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุเพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัยมากที่สุด
“สำหรับพื้นที่อำเภอบ้านกรวด มีหมู่บ้านเสี่ยงภัยที่จะต้องอพยพหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน 25 หมู่บ้าน ใน 5 ตำบล ซึ่งขณะนี้ได้มีการซักซ้อมแผนอพยพอย่างต่อเนื่อง” นายชัยณรงค์ กล่าว