ศรีสะเกษ - ชาวบ้านเสาธงชัยผวา เครื่องบินสอดแนมบินสำรวจชายแดนไทย-เขมร ด้านเขาพระวิหาร ส่งสัญญาณเกิดสงคราม เผยเร่งเข้าไปหาของป่ามากักตุนไว้เป็นอาหารประทังชีวิตตัวเองและครอบครัวในช่วงศาลโลกพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นางไสว แผ่นผา อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 ม.3 บ้านโนนสมบูรณ์ ต.ขนุน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมญาติพี่น้องได้พากันเข้าไปหาอาหารที่เป็นของป่าจำพวกเผือกมัน และผักต่างๆ ที่มีอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้านเขาพระวิหาร จำนวนมากมากักตุนไว้เป็นอาหารสำหรับตัวเองและครอบครัว เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ภัยสงครามที่อาจเกิดขึ้นได้กรณีที่ศาลโลกจะพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารในวันที่ 11 พ.ย.นี้
นางไสว แผ่นผา กล่าวว่า ตนและครอบครัวพร้อมญาติพี่น้องต้องเข้าไปหาอาหารที่เป็นของป่ามาเก็บกักตุนไว้เนื่องจากเมื่อถึงช่วงวันที่มีการพิพากษาของศาลโลก ชาวบ้านไม่สามารถเข้าไปหาของป่าตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านเขาพระวิหารได้เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ซึ่งขณะนี้พวกเรามีความหวาดกลัวภัยสงครามเป็นอย่างมาก เพราะเคยประสบกับภัยสงครามมาแล้ว เมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาต้องพากันอพยพไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัยจากกระสุนปืนใหญ่ของฝ่ายกัมพูชาที่ยิงถล่มใส่บ้านเรือนประชาชน ทำให้บ้านเรือนทรัพย์สินได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ทางด้านนายสงคราม รุงไธสง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.1 บ้านเสาธงชัย ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมาตนเห็นเครื่องบินเล็กไร้คนขับซึ่งเป็นลักษณะเครื่องบินสอดแนม บินอยู่ระดับสูงมากและสำรวจวนเวียนอยู่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา นานประมาณ 20 นาที จากนั้นได้บินหายไปทางด้าน จ.อุบลราชธานี
โดยในช่วงปี 2554 ที่ผ่านมา ซึ่งเกิดสงครามระหว่างไทยกับกัมพูชา เครื่องบินลักษณะนี้เคยมาบินสอดแนมบริเวณตามแนวชายแดนบริเวณนี้ จากนั้นก็เกิดสงครามขึ้น พวกตนจึงหวาดผวาว่า การที่เครื่องบินลักษณะนี้มาบินสำรวจชายแดนบริเวณเขาพระวิหารอีกอาจทำให้เกิดสงครามขึ้นมาก็ได้ ซึ่งพวกเราได้เตรียมพร้อมอพยพหนีภัยสงครามตลอดเวลาไว้แล้ว