ม็อบจำนำข้าวมาแล้ว โวยเชียงรายเปิดจุดจำนำช้า บีบขายสด

เชียงราย - ชาวนาเชียงรายรวมตัวประท้วงจำนำข้าวล่าช้า ครวญเกี่ยวข้าวกันตั้งแต่ต้นเดือนแต่ไม่มีจุดจำนำ ต้องขนไปฝากนอกพื้นที่เหมือนบีบให้ขายสดราคาถูกไม่พอ แถมใบรับรองใกล้หมดอายุอีก

วันนี้ (29 ต.ค.) กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปีจาก อ.เวียงชัย และ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย ประมาณ 200 คน นำโดยนายวิรัตน์ พรหมสอน นายชัยศิลป์ แก้วดอนกู่ ชาวบ้านสมานมิตร ต.เวียงเหนือ อ.เวียงชัย รวมตัวกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เรียกร้องให้รัฐบาลช่วยเหลือตามโครงการรับจำนำข้าวนาปีประจำฤดูกาล 2556-2557

โดยกลุ่มเกษตรกรได้นำรถออกประกาศชี้แจงความเดือดร้อน และแจ้งข้อเสนอไปยังทางจังหวัดให้เร่งเปิดจุดรับจำนำนอกพื้นที่โดยด่วน เพราะปัจจุบันชาวนาเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว แต่ปรากฏว่าไม่มีจุดรับจำนำข้าว และให้เร่งจ่ายใบรับรองแก่เกษตรกรโดยเร็ว รวมทั้งผ่อนผันให้เกษตรกรขายข้าวได้ไร่ละ 1,000 กิโลกรัม ส่วนรายที่มีผลผลิตเกิน 350,000 บาท ให้หาทางช่วยเหลือไม่ให้เสียสิทธิจากโครงการรับจำนำด้วย นอกจากนี้ยังเสนอให้เกษตรกรเข้าไปมีส่วนร่วมในการกำหนดราคา

นายวิรัตน์กล่าวว่า เกษตรกรเริ่มทำการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีกันแล้ว แต่ไม่มีจุดรับจำนำ ต้องนำข้าวไปฝากไว้กับจุดรับจำนำนอกพื้นที่ ซึ่งโรงสีที่เข้าร่วมโครงการก็ยังไม่ได้รับการรับรองอีก หรือเป็นเพียงแค่ท่าข้าว หรือโรงสีธรรมดา ทำให้ไม่ได้ใบประทวนเพื่อนำไปเบิกเงินจากธนาคาร เมื่อเกิดความล่าช้าชาวนาก็เดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย เหมือนบีบให้ขายข้าวให้โรงสีข้าวของเอกชนที่รับซื้อกันเพียงตันละไม่เกิน 6,000 บาทเท่านั้น

ด้านนายชัยศิลป์กล่าวว่า ชาวนาเก็บเกี่ยวข้าวกันมาตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม แต่ในพื้นที่ของตนมีชาวนาได้รับใบรับรองการมีข้าวไม่เกิน 5% ของทั้งหมด ซึ่งการออกใบรับรองถือว่าช้ามาก เมื่อล่าช้าก็ทำให้ชาวนาเดือดร้อนเพราะไม่สมารถนำไปขอใบประทวนจากโรงสีหรือท่าข้าวที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลได้

ต่อมานายชาติชาย สงวนพงษ์ ปลัดจังหวัดเชียงราย ได้รับเรื่องจากชาวบ้าน โดยมี น.ส.ศุภมิตร อิสรานุเจริญกุล การค้าภายในจังหวัดเชียงราย นายประเสริฐ สุทธเตนันท์ หัวหน้ากลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลิต สำนักงานเกษตรจังหวัด ชี้แจงว่า ปีนี้มีเกษตรกรจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว 82,374 ครัวเรือน และได้รับพิจารณาให้ขึ้นทะเบียนแล้ว 77,058 ราย รวมพื้นที่ 1,104,626 ไร่

ส่วนเกษตรกรผ่านการทำประชาคมแล้ว 59,397 ครัวเรือน รวมพื้นที่ปลูก 845,888 ไร่ ปัจจุบันได้รับใบประทวน 51,533 ครัวเรือน หรือราว 86.79% กรณีเกิดความล่าช้าในบางพื้นที่นั้นเพราะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบในการเลือกเอกชนเข้าร่วมโครงการ เนื่องจากเคยเกิดปัญหาไม่จ่ายเงินให้ชาวนาจนเป็นคดีความฟ้องร้องกันมาแล้ว 2 พื้นที่ในฤดูนาปรังที่ผ่านมา แต่คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนจะได้รับใบประทวนครบทั้งหมด

นายประเสริฐกล่าวว่า สาเหตุที่เกิดความล่าช้าเนื่องจากมีนโยบายให้ใช้ระบบแผนที่ทางอากาศในการกำหนดจุดพื้นที่การปลูก และต้องให้เกษตรกรไปชี้จุดเป็นรายไป แต่ได้รับแผนที่เมื่อเดือนตุลาคม ทั้งยังต้องแบ่งคนไปทำงานช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกยางพารา ข้าวโพดอีกด้วย แต่จะเร่งให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ช่วงนี้ขอให้เกษตรกรเก็บใบรับรองเอาไว้ก่อน เมื่อมีการเปิดจุดรับจำนำก็สามารถนำไปขอใบประทวนได้ทันที

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรแย้งว่าขณะนี้มีข้อกำหนดอายุของใบรับรองเอาไว้ 30 วัน ซึ่งชาวนาจำนวนมากเกี่ยวข้าวตั้งแต่ต้นเดือน และใบรับรองกำลังจะหมดอายุในต้นเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยที่รัฐยังไม่สามารถเปิดจุดรับจำนำได้ ทำให้เดือดร้อนมาก

ที่สุดนายชาติชายรับเรื่องจากเกษตรกรไว้ก่อนเพื่อเสนอปัญหาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทราบต่อไป โดยรับปากจะรีบเปิดจุดรับจำนำโดยเร็ว และจะออกใบรับรองผ่อนผันให้เกษตรกรไปก่อน นอกจากนี้ยังจะทำเรื่องขอขยายเพดานผลผลิตเป็น 500,000 บาท ซึ่งมากกว่าที่เกษตรกรเรียกร้อง ส่วนที่จุดรับจำนำจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ตัวแทนเกษตรกร 3 คน และข้าราชการในพื้นที่อีก 1 คนประจำอยู่เพื่อความโปร่งใส