ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “นารี” ทำฝนถล่มโคราชทั้งคืนต่อเนื่องถึงขณะนี้ ส่งผลน้ำท่วมอ่วมหลายจุดในเขตเทศบาลนครฯ และซ้ำเติมพื้นที่น้ำท่วมเดิมใน 4 อำเภอวิกฤต ด้าน ปภ.จังหวัดฯ เผยฝนตกหนักสุดใน อ.โชคชัย ขณะ 3 เขื่อนใหญ่ล้นความจุเร่งระบายออกเพื่อรับน้ำใหม่ ส่วนอ่างฯ ขนาดกลาง 22 โครงการ ล้นแล้ว 16 แห่ง
เมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “นารี” (NARI) ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณชายฝั่งเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม และอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยทำให้มีฝนตกโดยทั่วไปนั้น ที่ จ.นครราชสีมาได้มีฝนตกหนักตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาและต่อเนื่องจนถึงวันนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขังสูงหลายจุดในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา โดยเฉพาะที่ถนนสุรนารายณ์ บริเวณหน้าศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา น้ำท่วมถนนสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร (ซม.) รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จัดกำลังเข้าอำนวยความสะดวกและติดป้ายเตือนให้เลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นแทน
เช่นเดียวกับบริเวณสามแยกจักราช ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา เกิดน้ำท่วมถนนทั้ง 2 ฝั่ง ขาเข้าและขาออกเมืองนครราชสีมา และที่ถนนเลียบนคร บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานข้ามทางรถไฟ หน้าโรงแรมสีมาธานี ก็มีน้ำท่วมขังสูงเช่นกัน
นายกฤชเพชร เพชระบูรณิน หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ส่งผลให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหลายจุด แต่ที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือพื้นที่ อ.โนนสูง, พิมาย, ชุมพวง และ อ.โชคชัย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีน้ำท่วมเดิมอยู่แล้ว ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกและขยายวงกว้างออกไป โดยเฉพาะพื้นที่ทางการเกษตรถูกน้ำท่วมสูง ที่สำคัญในพื้นที่ปลายน้ำของจังหวัด คือ อ.พิมาย และ อ.ชุมพวง ฝนที่ตกลงมาก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติม ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำลงแม่น้ำมูล ซึ่งคาดว่าจะท่วมขังในพื้นที่ดังกล่าวต่อไปอีกนานหลายเดือน
สำหรับปริมาณฝนที่ตกลงมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา พบว่าส่วนใหญ่ตกหนักในพื้นที่ อ.โชคชัย วัดได้ 90-91 มิลลิเมตร ส่วนในพื้นที่ อ.ปากช่อง และ อ.วังน้ำเขียว ซึ่งเป็นพื้นที่เหนือเขื่อนขนาดใหญ่หลายแห่ง ตกระดับปานกลางวัดได้ประมาณ 40-50 มิลลิเมตร และจากรายงานทราบว่า จนถึงขณะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องและคาดว่าจะตกตลอดทั้งวัน
ด้านโครงการชลประทานจังหวัดนครราชสีมารายงานสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่จำนวน 5 โครงการในพื้นที่ จ.นครราชสีมาว่า ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนขนาดใหญ่มีจำนวน 883.54 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็น 94.18% ของความจุที่ระดับเก็บกักรวม 938.12 ล้าน ลบ.ม. เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 6 ล้าน ลบ.ม.
โดยมี 3 เขื่อนใหญ่ยังมีปริมาณน้ำเกินความจุ คือ เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีปริมาณน้ำ 112.97 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 103.05 ของความจุ ที่ระดับกักเก็บ 110 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งทางเขื่อนพยายามเร่งระบายน้ำออกวันละ 1.8 ล้าน ลบ.ม. เพื่อให้รองรับน้ำฝนที่ตกลงมาได้อีก เขื่อนลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 309.56 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 112.57 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. ทางเขื่อนเร่งระบายน้ำออกวันละ 1.2 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำ 98.85 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 100.87 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 98 ล้าน ลบ.ม.
ขณะที่เขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำ 229.34 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 73 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 314 ล้าน ลบ.ม. ขณะที่เขื่อนลำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 133 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 94 ของความจุที่ระดับกักเก็บ 141 ล้าน ลบ.ม.
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 22 โครงการของ จ.นครราชสีมา มีปริมาณน้ำรวม 226.74 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 98.28% ของความจุที่ระดับเก็บกัก 226.74 ล้าน ลบ.ม. โดยมีปริมาณน้ำเกินความจุแล้วรวม 16 โครงการ
