ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พาณิชย์เชียงใหม่แจงความคืบหน้าแผนส่งเสริมการค้าชายแดนเชียงใหม่ สรุปทำแผนเชื่อมท่องเที่ยว 5 อำเภอชายแดน แวะแหล่งท่องเที่ยวเด่น พร้อมโปรโมตกิจกรรมให้เป็นที่รู้จัก มั่นใจมีศักยภาพ-เรื่องราวน่าสนใจ หากได้แรงหนุนดีมีสิทธิแจ้งเกิด
วันนี้ (8 ต.ค.) นายไพโรจน์ กุลละวณิชย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการส่งเสริมและแก้ปัญหาการค้าชายแดนไทย-พม่าว่า จากการประชุมเชิงปฏิบัติการตามโครงการครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 28-29 กันยายน ที่อำเภอเชียงดาว มีข้อสรุปเพื่อนำไปปฏิบัติในระดับกลุ่มอำเภอ 5 อำเภอชายแดน ประกอบด้วย อ.เวียงแหง อ.เชียงดาว อ.แม่อาย อ.ฝาง และอ.ไชยปราการ รวม 3 ประเด็น ได้แก่
1.จะจัดให้มีการทำแผนการท่องเที่ยวชายแดน โดยเชื่อมต่อทั้ง 5 อำเภอ ในรูปแบบของการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม แบบบันเทิงและกีฬา และเพื่อการประชุมและสัมมนา 2.รวบรวมข้อมูลกิจกรรมเด่นๆ ในทั้ง 5 อำเภอชายแดนทุกเดือนตลอดทั้งปี และ 3.รวบรวมข้อมูลที่พักและร้านอาหารในพื้นที่
นายไพโรจน์ กล่าวว่า ได้มอบหมายให้อำเภอชายแดนทั้ง 5 อำเภอ วางแผนและรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยหลังจากได้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว สำนักงานพาณิชย์จังหวัด จะได้เสนอจังหวัดเพื่อมอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ และสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่ มารับช่วงดำเนินการต่อ โดยเฉพาะการประชาสัมพันธ์ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ขณะเดียวกัน ก็จะผลักดันใเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์จังหวัดด้วย
นายไพโรจน์ กล่าวว่า แต่เดิมนั้นโครงการให้ความสนใจการพัฒนาการท่องเที่ยวอำเภอชายแดนทั้ง 5 อำเภอ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านเศรษฐกิจ และเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดด่านชายแดนถาวรที่กิ่วผาวอก โดยมองว่า สามารถนำเสนอจุดขายการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ได้ อย่างไรก็ตาม จากการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งที่ 2 ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จนได้ข้อสรุปว่าไม่ควรมองแค่การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ แต่สามารถมองไปถึงการท่องเที่ยวด้านอื่น รวมทั้งการเชื่อมโยงพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกันให้เป็นเส้นทางการท่องเที่ยว และนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว สิ่งของ หรือผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ และน่าสนใจในพื้นที่เพื่อเพิ่มมูลค่า และสร้างจุดขาย
โดยการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวนั้น ได้วางแผนที่จะจัดเส้นทางการท่องเที่ยว 5 อำเภอแบบไม่ย้อนกลับ ซึ่งแต่ละอำเภอจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ขณะที่กิจกรรมเด่นแต่ละอำเภอนั้น ได้หารือกันว่าหลายอำเภอมีเรื่องราวน่าสนใจ เช่น เดือนนี้ที่ อ.เชียงดาว มีการเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว หรือที่ อ.เวียงแหง มีการทำ “หมูน้ำค้าง” ซึ่งในปีหนึ่งจะทำได้เฉพาะช่วงนี้เท่านั้น เป็นต้น
ดังนั้น หากมีการประชาสัมพันธ์ให้แพร่หลายออกไป จะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เป็นที่รู้จัก และเติบโตมากยิ่งขึ้น