xs
xsm
sm
md
lg

งัดร้านวัสดุก่อสร้างเมืองร้อยเอ็ด เชิดเงินกว่า 1.9 ล้าน พร้อมทอง 30 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ร้อยเอ็ด - คนร้ายย่องเงียบงัดห้างฯ ขายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ในร้อยเอ็ด เจาะตู้เซฟเชิดเงินไปกว่า 1.9 ล้านบาท และทองคำอีกเกือบ 30 บาทหนีลอยนวล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (7 ต.ค.) ร.ต.อ.พงษ์อนันต์ อังคณิต พงส.สภ.เมืองร้อยเอ็ด ได้รับแจ้งมีเหตุคนร้ายบุกงัดลักทรัพย์ภายในบริษัท ไทยเพิ่มพูลโฮมชอป จำกัด เลขที่ 208 หมู่ 23 ถนนร้อยเอ็ด-โพนทอง ต.เหนือเมือง อ.เมือง มีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.กิตติรัชต์ น้อยโพนทอง ผกก.สภ.เมืองร้อยเอ็ด

ที่เกิดเหตุเป็นห้างจำหน่ายวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ มีนายจักรพงษ์ สุริยวนากุล กรรมการผู้จัดการ และพนักงานฯ นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในสำนักงานชั้นล่าง พบตู้เซฟขนาดใหญ่สูง 1 เมตรล้มอยู่ที่พื้นในสภาพถูกคนร้ายใช้สว่าน ค้อนทุบฉนวนคอนกรีตหนากว่า 20 ซม.จนทะลุแผ่นเหล็กชั้นในสุด แล้วล้วงเอาเงินสดที่อยู่ภายในไปกว่า 1.9 ล้านบาท ทิ้งเศษเงินเหรียญกระจายเกลื่อน

ใกล้ๆ กันมีค้อนปอนด์ และเครื่องมือช่างอีกหลายชนิดวางทิ้งอยู่ ขณะเดียวกันบนชั้น 2 พบลิ้นชักโต๊ะทำงานถูกรื้อค้นนับ 10 โต๊ะ มีตู้เซฟขนาดใหญ่ล้มอยู่กลางห้อง ถูกทุบและงัดจนเปิดออก สร้อยคอทองคำหลายเส้นน้ำหนักกว่า 30 บาทที่อยู่ในตู้หายไป

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเป็นชายฉกรรจ์จำนวน 2 คน สวมหมวกไอ้โม่งงัดประตูหลังของร้านเข้ามาเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 6 ต.ค. 56 แล้วนำอุปกรณ์และเครื่องมือช่างที่วางขายอยู่ภายในมาทำการงัด ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงจนได้ทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป

นายจักรพงษ์ สุริยวนากุล กรรมการผู้จัดการบริษัทไทยเพิ่มพูลโฮมชอป เล่าว่า ปกติด้านหน้าห้างฯ จะมี รปภ.เฝ้าอยู่ 2 คน แต่วันเกิดเหตุ รปภ.ได้ลาไปทำบุญ 1 คน คาดว่าคนร้ายรายนี้น่าจะรู้ระบบภายในและจุดที่ตู้เซฟตั้งอยู่เป็นอย่างดี จึงหลบหลีกมุมกล้องได้แนบเนียน

ซึ่งกรณีดังกล่าวทางห้างฯ เคยถูกคนร้ายงัดเข้ากำแพงด้านข้าง แล้วใช้แก๊ส และเครื่องมือของบริษัทเข้าเจาะตู้เซฟมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี 2549 แต่ครั้งนั้นทำการไม่สำเร็จจึงไม่ได้ทรัพย์สินไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่เคยทำงานในห้างแห่งนี้และรู้ข้อมูลโครงสร้างภายในห้างฯ ดีจึงวางแผนเข้ามาลักทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สืบหาเบาะแสติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น