อ่างทอง - ชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบ้านแห เมืองอ่างทอง เดือดร้อนหนัก หลังถูกน้ำท่วมขังมานานจนน้ำเกิดเน่าเสีย และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วแล้ว ขณะที่ชาวบ้านต้องเดินลุยน้ำจนป่วยเป็นโรคเท้าเน่ากันแล้วหลายราย ขณะที่ อบต.บ้านแห เตรียมแก้ไขปัญหาสูบน้ำทิ้งให้ไหลเวียนลดการเน่าเสีย
วันนี้ (7 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสภาพน้ำบริเวณหมู่ที่ 6 ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง ว่า เริ่มมีสภาพเน่าเสียดำคล้ำ และส่งกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง หลังน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาล้นตลิ่งเข้าท่วมขังมานานกว่า 2 สัปดาห์ และท่วมขังอยู่ที่บริเวณดังกล่าวทำให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ และต้องเดินลุยน้ำจนป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้าหลายราย โดยเฉพาะชาวบ้านที่ไม่มีเรือในการเดินทางเข้าออกบ้าน ทำให้ต้องเดินลุยน้ำ ซึ่งแม้ทางเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลสุขภาพตำบลบ้านแห จะนำยามาแจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน แต่การลุยน้ำทุกวันทำให้การดูแลรักษาทำได้ยากลำบาก
นางละออง ศิลป์สะอาด อายุ 77 ปี ชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.บ้านแห อ.เมือง จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ต้องเอายาจากเจ้าหน้าที่ที่แจกจ่ายคอยทาเท้าอยู่ตลอด แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะป้องกันได้ ซึ่งตนเองก็พยายามทายาอยู่ตลอดเวลา แต่การที่ต้องเดินลุยน้ำที่เน่าเสียตลอดเวลาทำให้เป็นแผลที่เท้าหลายแห่ง เช่นเดียวกันกับชาวบ้านอีกหลายๆ คนที่มีสภาพไม่ต่างกัน
ขณะที่นายอรรณพ สุวรรณชะนะ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล อบต.บ้านแห เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้นำน้ำยาอีเอ็มมาเทที่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทาง อบต.จึงจะนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ตั้งเครื่องสูบน้ำข้ามไปลงคลองชลประทานเพื่อให้น้ำไหลเวียนจะได้ไม่มีการเน่าเสีย และหากน้ำลดพ้นคันกันน้ำลงไปเมื่อไหร่ก็จะทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่ทันที ส่วนผู้ที่ป่วยเป็นโรคน้ำกัดเท้าได้ประสานทางโรงพยาบาลสุขภาพตำบลบ้านแห นำยาไปแจกจ่ายเป็นการบรรเทาแล้ว
ขณะที่สถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสถานีโทรมาตร C7A หน้าศาลากลางจังหวัดอ่างทอง วันนี้วัดได้ 7.90 เมตร น้ำไหลผ่าน 2,092 ลบ.เมตรต่อวินาที ซึ่งในพื้นที่อ่างทองยังมีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 1,400 ครัวเรือน