ลำปาง - เจ้าของช้างให้บริการนักท่องเที่ยวในเชียงใหม่ต้องขน “พังโม่เบล” วัย 42 ปี ส่ง รพ.ช้างลำปางอย่างเร่งด่วน เผยซื้อจากเจ้าของเดิมมาได้ 1 ปี พบเท้าเน่าเปื่อยเนื้อหลุด มีหนองไหลจากตัวหลายจุด ลำตัวถูกแดดเผาจนผิวลอก
วันนี้ (15 พ.ย.) เจ้าของช้างในปางช้างแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ได้นำช้างเพศเมียชื่อพังโม่เบล อายุ 42 ปี มาทำการรักษาที่โรงพยาบาลช้างของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยมีนางสาวโซไรดา ซาลวาลา ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลช้างฯ และเลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง พร้อมด้วยสัตวแพทย์ ปรีชา พวงคำ และสัตวแพทย์หญิง เครือทอง ขยัน สัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้าง เป็นผู้ตรวจสภาพร่างกายของช้าง
จากการสอบถามเจ้าของช้างและตรวจสภาพร่างกายของช้างพังโม่เบล ทราบว่าเจ้าของได้ซื้อช้างพังโม่เบลจากเจ้าของเดิมที่เคยใช้งานชักลากไม้มาก่อน โดยซื้อมาได้ประมาณ 1 ปี และนำมาใช้เป็นช้างท่องเที่ยวในปางช้างแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่
ก่อนหน้านี้ 1 สัปดาห์ช้างมีอาการไม่ดี เดินไม่ถนัด และเห็นว่าที่เท้าของช้างมีบาดแผลเน่าเปื่อย ลำตัวมีหนองไหลออกมาหลายแห่ง จึงให้สัตวแพทย์ทำการรักษา แต่อาการไม่ดีขึ้น วันนี้จึงตัดสินใจนำขึ้นรถบรรทุกมาให้สัตวแพทย์ของมูลนิธิเพื่อนช้างทำการรักษา เนื่องจากเกรงว่าช้างจะมีอาการทรุดหนัก
เมื่อสัตวแพทย์ได้ตรวจร่างกายช้างแล้วก็ได้ให้ควาญนำช้างเอาเท้าแช่ในน้ำยาฆ่าเชื้อเป็นเวลาประมาณ 15 นาที ก่อนที่จะทำความสะอาดบริเวณอุ้งเท้า ซึ่งพบว่าเนื้อเท้าเปื่อยบางส่วนหลุดออกทำให้ช้างเจ็บเท้าเวลาเดิน ซึ่งจะต้องตัดเนื้อที่เปื่อยทิ้ง และทำการรักษาตามขั้นตอนต่อไป
นอกจากนี้ยังพบว่าที่ลำตัวหลายแห่งเป็นแผลลึกคล้ายถูกตะขอสับ และเป็นแผลเก่า แต่อาจจะเกิดอาการอักเสบทำให้กลายเป็นฝี และหนองไหลออกมา สัตวแพทย์ได้ทำการเอาหนองออก และฉีดยาฆ่าเชื้อทุกจุด รวมถึงที่บริเวณใบหูด้านซ้ายพบว่ามีการอักเสบเป็นผื่นแดงเกือบทั้งหมดคาดว่าจะติดเชื้อ ส่วนลำตัวบางส่วนก็พบว่าถูกแดดเผาจนผิวไหม้และลอกออกเป็นแผ่นจนเห็นผิวหนัง จึงได้ใช้ครีมทาเพื่อรักษาอาการไปก่อน
นายสัตวแพทย์ ปรีชากล่าวว่า จากการสอบถาม และดูอาการของช้าง เชื่อว่าสถานที่เลี้ยงดูไม่ถูกสุขลักษณะ คือบริเวณที่นำช้างไปเลี้ยงไว้นั้นเป็นแหล่งอับชื้น เฉอะแฉะ มีน้ำขัง เมื่อช้างเหยียบย่ำเป็นเวลานานจึงทำให้เท้าช้างเปื่อยและอาจจะติดเชื้อ ซึ่งคงต้องรอดูอาการอีกระยะ
เบื้องต้นก็จะต้องรักษาตามอาการ คือ ล้างทำความสะอาดบาดแผล ตัดชิ้นเนื้อที่เปื่อยทิ้ง ทายา ฉีดยากันบาดทะยัก
ส่วนที่ลำตัวแผลต่างๆ คาดว่าน่าจะถูกเจ้าของเดิมทารุณโดยการใช้ตะขอสับ เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นแผลเก่าที่ปิดไปแล้ว แต่เกิดการอักเสบขึ้นมาจนเป็นฝีและหนองไหลออกมา ขณะที่แผ่นหลังและข้างลำตัวที่ผิวมีการลอกออกมานั้นคาดว่าช้างจะถูกให้อยู่กลางแดดจัดเป็นเวลานาน และติดต่อกันจนผิวถูกแดดเผาไหม้จนถลอกลอกจนเห็นผิวหนังชั้นใน ซึ่งจะต้องทายาและครีมรักษา
