ลำปาง - พังโม่เบลวัย 42 ปีล้มแล้ว หลังเจ้าของปางช้างในเชียงใหม่ส่งเข้ารักษาตัวที่ รพ.ช้างลำปางได้เพียง 3 วัน ขณะที่สัตวแพทย์ผ่าชิ้นเนื้อตรวจหาสาเหตุการตาย ชี้เป็นเรื่องแปลก และไม่เคยพบมาก่อน
วันนี้ (18 พ.ย.) นางสาวโซไลดา ซาลวาลา เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เปิดเผยว่า ช้างพังโม่เบลวัย 42 ปี ที่เจ้าของปางช้างท่องเที่ยวแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ นำมารักษาตัวที่โรงพยาบาลของมูลนิธิเพื่อนช้าง อ.ห้างฉัตร เมื่อ 3 วันก่อน (15 พ.ย.) ได้เสียชีวิตอย่างสงบเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
ทั้งนี้ พังโม่เบลมีอาการเจ็บหนัก อุ้งเท้าเปื่อย ผิวหนังถลอกเนื่องจากแดดเผา และตามร่างกายหลายแห่งเป็นฝี มีหนองไหลออกมา คาดว่าเกิดจากถูกตะขอควาญช้างสับมานาน และร่างกายทรุดโทรม เนื่องจากเจ้าของเดิมเคยนำไปใช้งานชักลากไม้ ก่อนที่ทางปางช้างจะซื้อมาให้บริการนักท่องเที่ยวได้ราว 1 ปี
ซึ่งระหว่างการรักษา ทางสัตวแพทย์ได้พยายามช่วยเหลือ ทั้งให้ยาวิตามินบำรุงเลือด เนื่องจากพบว่าโลหิตจาง และมีอาการทางระบบประสาทด้วย นอกจากนี้ยังให้น้ำเกลือ กลูโคส และใช้เครนพยุงตัวช่วยในการยืน
เมื่อคืนที่ผ่านมาพังโม่เบลได้ล้มตัวลงนอน และหายใจแผ่ว สัตวแพทย์จึงได้ให้น้ำเกลือเพิ่มอีก 13 ลิตร กลูโคสเพิ่มอีก 5,000 กรัม และให้นอนพัก แต่สุดท้ายพังโม่เบลก็จากไปอย่างสงบ
เช้าวันนี้ทางมูลนิธิได้เชิญนายบัญยัง บุญเทียม หมอช้าง เข้ามาทำพิธีปัดพลาย และประพรมน้ำพระพุทธมนต์ พร้อมกับให้ผู้เข้าร่วมพิธีได้รดน้ำร่างของพังโม่เบล ก่อนที่จะนำไปทำการผ่าที่บริเวณหลุมฝังเพื่อนำชิ้นเนื้อส่งไปพิสูจน์ถึงสาเหตุการตาย
นายสัตวแพทย์ ปรีชา พวงคำ ผู้อำนวยการและนายสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลช้างมูลนิธิเพื่อนช้าง เปิดเผยว่า การตายของพังโม่เบลถือเป็นเรื่องแปลก และไม่เคยพบมาก่อน เนื่องจากโลหิตต่ำมาก ไม่ยอมกินอาหาร และเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงจำเป็นต้องเก็บชิ้นเนื้อส่งตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายเพื่อจะได้เป็นข้อมูลในการรักษาและป้องกัน หากเป็นโรคระบาดหรือโรคติดต่อจะได้ประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของช้างทราบ เพื่อป้องกันช้างเชือกอื่นที่ยังมีชีวิตอยู่ต่อไป
สำหรับโรงพยาบาลมูลนิธิเพื่อนช้างลำปาง ระหว่างปี 2536-2557 ย่างเข้าปีที่ 22 มีช้างที่เข้ารักษาและต้องล้มตาย เนื่องจากทนอาการเจ็บป่วยไม่ไหวไปแล้วถึง 44 เชือก และช้างที่ป่วยจนต้องใช้วิธีเมตตาฆาตไปถึง 15 เชือก