พระนครศรีอยุธยา - ชาวบ้านเหยื่อน้ำกรุงเก่า พื้นที่ตำบลบางไทร อำเภอบางไทร ที่ถูกน้ำท่วมมาร่วมเดือน ร้องขอแสงสว่างยามค่ำคืนจากภาครัฐ หลังย้ายทรัพย์สินหนีน้ำมาบนถนน หวั่นถูกขโมยและอันตรายจากรถสัญจรไปมา
เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ไปสำรวจสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ตำบลบางไทร อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังพบว่าปริมาณน้ำในแม่น้ำน้อย และแม่น้ำเจ้าพระยา ไหลมาบรรจบกันก่อนจะผ่านไปทางจังหวัดปทุมธานี พบว่าปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ตำบลบางไทร อำเภอบางไทรแห่งนี้สูงขึ้นอีกจนล้นตลิ่งกว่า 1.50 เมตร
ทั้งนี้ สำหรับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำในพื้นที่ดังกล่าว ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว จนถึงขณะนี้ระดับน้ำก็ยังไม่ลดลง ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ต้องเดินลุยน้ำเข้าบ้านในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมสูง และบางส่วนใช้โฟม และเรือเป็นยานพาหนะเข้าออกเนื่องจากบ้านบางหลังอยู่ในพื้นที่ต่ำทำให้น้ำท่วมสูง และต้องขนย้ายทรัพย์สินมาเก็บไว้บนถนนที่เป็นถนน 2 เลน ทำให้ต้องเสียการจราจรไป 1 เลน ทำให้ถนนแคบ และอาจเกิดอันตรายได้ รวมถึงห้องน้ำที่ยังไม่เพียงพอ มีห้องน้ำเพียงห้องเดียวที่ต้องใช้ร่วมกัน แต่ไม่มีแสงสว่างที่จะมาใช้ในยามค่ำคืน
นายบรรจง ไตรรักษ์ อายุ 63 ปี บ้านเลขที่ 9 หมู่ 5 ตำบลบางไทร อำเภอบางไทร เล่าว่า ความยากลำบากตอนนี้คือ ไฟที่จะส่องทาง และถนน เนื่องจากข้าวของย้ายมาอยู่บนถนนยามค่ำคืนต้องมานอนเฝ้ากันเอง ทำให้ยากแก่การดูแล อยากให้เจ้าหน้าที่มาติดตั้งไฟเพิ่มความสว่างเพื่อความปลอดภัยให้
นายวุฒิ ไตรรักษ์ อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 10 หมู่ 7 ตำบลบางไทร อำเภอบางไทร กล่าวว่า อยากขอส้วมเพิ่มเนื่องจากปัจจุบันมีห้องน้ำเพียงที่เดียว และใช้มาตั้งแต่ปี 2554 จึงอยากได้เพิ่ม รวมถึงแสงสว่างด้วย เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่นำอุปกรณ์การเกษตรมาเก็บไว้ริมถนนเพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำท่วม แต่ก็กลัวจะโดนขโมยไปจึงอยากได้แสงสว่างเพิ่ม อีกทั้งชาวบ้านบางคนที่ทำงานโรงงานในช่วงตอนกลางคืนต้องพายเรือเดินลุยน้ำออกมาที่ถนนจะได้เพิ่มความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินอีกด้วย
