พระนครศรีอยุธยา - “ตลาดสดบ้านแพน” อำเภอเสนา อยุธยา กลายเป็นตลาดน้ำไปแล้วหลังถูกน้ำท่วมสูง ขณะที่เทศบาลเมืองเสนา สร้างสะพานไม้ยาวที่สุดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ ขณะสถานการณ์น้ำ ผู้ว่าฯ สั่งเฝ้าระวังน้ำท้ายเขื่อนพระราม 6 อย่างใกล้ชิด
วันนี้ (27 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ตลาดบ้านแพน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำน้อย ได้ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 80 เซนติเมตร จนกลายเป็นตลาดน้ำไปแล้วทั้งตลาด บรรดาพ่อค้าแม่ค้าแผงลอยต้องย้ายไปขายของที่ขนส่งอำเภอเสนา ส่วนร้านค้า ร้านทองยังคงเปิดขายตามปกติ ชาวบ้านต้องเดินเท้าบนสะพานไม้ที่ทางเทศบาลเมืองเสนาสร้างเอาไว้เพื่อจับจ่ายซื้อของ
สำหรับสะพานไม้ที่เทศบาลเมืองเสนาสร้างขึ้นมี มีขนาดกว้าง 1 เมตร สูง 2 เมตร โดยสร้างเชื่อมต่อกันไปรอบๆ ตลาด ตามตรอกซอกซอย และสร้างเชื่อมไปยังห้องแถว บ้านเรือนที่ประชาชนพักอาศัยอยู่ ขณะนี้ได้ดำเนินการสร้างไปแล้วความยาวกว่า 8 กิโลเมตร และจะสร้างต่อไปเรื่อยๆ ตามระดับน้ำที่สูงขึ้น และขยายวงกว้าง เชื่อว่าจะเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศที่ใช้สำหรับบริการอำนวยความสะดวกประชาชนในช่วงน้ำท่วม
ซึ่งการสร้างสะพานครั้งนี้ถือเป็นการช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าที่เปิดร้านในอาคารพาณิชย์ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทางเทศบาลเมืองเสนา จึงจัดสร้างสะพานขึ้นมาเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ร้านค้า และประชาชนที่ต้องการจะเข้ามาจับจ่ายซื้อของ ซึ่งทำให้ยังคงมีรายได้แม้จะถูกน้ำท่วม
ทั้งนี้ ขณะนี้ระดับน้ำภายในตลาดยังคงเพิ่มสูงขึ้น จนพบว่าสูงจนถึงถนนเพิ่มขึ้นจากเดิมทำให้ผู้ใช้รถต้องลุยน้ำบ้างในบางจุดของตลาดแล้ว
ขณะที่สถานการณ์ระดับน้ำล่าสุด นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า วันนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี มีระดับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่แม่น้ำป่าสัก ท้ายเขื่อนพระราม 6 ใน อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง อ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 10-20 ซม. เนื่องจากขณะนี้ความกดอากาศสูงค่อนข้างแรงทำให้มีฝนตกในภาคเหนือ และภาคกลางตอนล่าง
“ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนปาสักชลสิทธิ์ ความจุ 93 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีการระบายน้ำผ่านเขื่อนพระราม 6 ขอให้ประชาชน ในพื้นที่ อ.ท่าเรือ อ.นครหลวง ให้เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเพื่อเป็นความไม่ประมาทเก็บข้าวของไว้ในที่สูงเพื่อป้องกันการสูญเสียของทรัพย์สิน”
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการได้สำรวจบรรยากาศปริมาณน้ำภายในแม่น้ำเจ้าพระยาพบว่า ระดับน้ำเริ่มที่จะทรงตัว แต่พบว่าบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ติดแม่น้ำ ระดับน้ำยังคงมีปริมาณสูงอยู่ โดยที่มัสยิดดารุซซุนนะห์ ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พรนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ได้ไหลเข้าท่วมบริเวณด้านหน้ามัสยิดทั้งหมด ซึ่งระดับน้ำมีความสูงเกือบถึงหัวเข่า ทำให้ชาวไทยมุสลิมต้องเดินลุยน้ำ และพายเรือออกจากบ้านเพื่อมาละหมาด อีกทั้งบ้านเรือนประชาชนชาวไทยมุสลิมบริเวณดังกล่าวได้ถูกน้ำท่วมสูง จำนวนกว่า 10 ครัวเรือน
ขณะเดียวกัน พื้นที่หมู่ 4 ต.วัดยม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบาล ได้พายเรือออกตรวจความเรียบร้อยบ้านเรือนประชาชนที่ถูกน้ำท่วมสูงมานานกว่า 1 สัปดาห์ เพื่อเป็นการดูแลทรัพย์สิน และสร้างความอุ่นใจให้แก่ประชาชนที่บ้านเรือนถูกน้ำจากแม่น้ำน้อยไหลเข้าท่วม และต้องออกไปนอนพักที่ถนน และพื้นที่อื่น
