พระนครศรีอยุธยา - สถานการณ์น้ำในพระนครศรีอยุธยุธยายังทรงตัว ขณะที่เขื่อนพระราม 6 ยังคงระบายน้ำต่อเนื่อง ด้าน “วัดสะตือ” วัดสำคัญระดับน้ำหน้าวัดยังท่วมสูง 40-50 ซม.หวั่นซ้ำรอยปี 54 หากเขื่อนพระราม 6 ยังคงระบายน้ำไม่หยุด
วันนี้ (8 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า หลายพื้นที่ยังคงถูกน้ำท่วม ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก โดยที่เขื่อนพระราม 6 ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา วันนี้ได้มีประชาชนเดินทางมาเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยที่บริเวณเหนือเขื่อนได้มีการปักธงสีแดงเตือนภัยไว้ โดยในวันนี้ทางเขื่อนพระราม 6 ได้ระบายน้ำลงสู่ท้ายเขื่อนอยู่ที่ 766.42 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังจากที่รับมวลน้ำที่ปล่อยมาจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่วันนี้ได้มีการระบายน้ำลงใต้เขื่อนอยู่ที่ 700.56 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่วนประตูระบายน้ำพระนารายน์ ได้มีการเปิดระบายอยู่ที่ 138.95 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อช่วยระบายอีกทางหนึ่ง ซึ่งอาจจะส่งผลให้ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี วันนี้มีระดับสูงขึ้น และน้ำไหลเข้าสู่พื้นที่ของกรุงเทพมหานครต่อไป
ขณะที่วัดสะตือพุทธไสยาสน์ ตั้งอยู่ ต.ท่าหลวง อ.ท่าเรือ ซึ่งเป็นวัดสำคัญอีกหนึ่งแห่งที่เมื่อปี 2554 เคยประสบกับอุทกภัยน้ำท่วมจนองค์พระพุทธไสยาสน์ ในวัดสะตือ หรือชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อโต ประดิษฐานเป็นพระนอนองค์ใหญ่อยู่คู่กับ อ.ท่าเรือ ตอนนี้ระดับน้ำหน้าวันที่ติดกับแม่น้ำป่าสักสูงประมาณ 40-50 เซนติเมตร แต่ถ้ามวลน้ำไหลลงมาเพิ่มที่เขื่อนพระราม 6 ทางเขื่อนอาจจะต้องเพิ่มการระบายน้ำมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้น้ำไหลเข้าท่วมซ้ำรอยปี 54 อีกครั้ง
ส่วนชุมชนที่อยู่ติดกับวัดสะตือ ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำกว่าวัดตอนนี้พบว่า ระดับน้ำเข้าท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านต้องขนย้ายข้าวของมาเก็บ และพักอาศัยชั่วคราว
ส่วนที่ ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำจากคลองข้าวเม่า ได้ไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน หอพักประชาชนบริเวณดังกล่าวทำให้ได้รับความเสียหายซึ่งระดับน้ำมีความสูง 20-30 เซนติเมตร ทำให้นายสมวงศ์ กองจำปา อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.3 ต.หันตรา อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องเร่งขนย้ายสุนัขที่ตนเองเลี้ยงไว้กว่า 10 ตัวที่บริเวณชั้นล่างของบ้านลงเรือเพื่อนำขึ้นไปไว้บนชั้น 2 ของบ้านหลังจากระดับน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านของตนเองมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 07.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปสำรวจระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก พบว่า ยังคงมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 10-15 เซนติเมตร ส่งผลให้คลองกะมัง ระดับน้ำมีปริมาณสูงขึ้นไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงพร้อมขนย้ายรถยนต์ รถจักยานยนต์มาจอดไว้ที่ถนนทางเข้าบ้านที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม
นางขวัญใจ บุญโยทก อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 ม.7 ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ชาวบ้านในหมู่บ้านศรีกรุง กล่าวว่า ขณะนี้บ้านของตนเองได้ถูกน้ำในคลองกะมังไหลเข้าท่วมบ้านมานานกว่า 1 อาทิตย์ ระดับน้ำมีความสูงถึงเอว ทำให้ตนเองต้องพายเรือจากบ้านของตนเองระยะทางกว่า 600 เมตร ออกมาใส่บาตรพระสงฆ์ที่บริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้านในตอนเช้าหลังจากที่ภายในหมู่บ้านของตนเองได้ถูกน้ำท่วม
โดยในขณะนี้คลองกะมังดังกล่าวได้มีผักตบชวาลอยมาติดเป็นจำนวนมากทำให้การระบายน้ำลงสู่แม่น้ำเป็นไปได้ช้า จึงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านด้วยต่อไป