รวบฆาตกรโหดฆ่าชำแหละศพสยอง รับสารภาพเหตุโกรธแค้นผู้ตายเพื่อนซี้

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.ประทาย โคราช รวบแล้ว ฆาตกรโหดฆ่าชำแหละศพสุดสยอง สารภาพเป็นผู้ลงมือจริง เผยร่วมดื่มเหล้า และทะเลาะกับผู้ตายเพื่อนซี้เรื่องที่ดินทำให้โกรธแค้นจึงใช้ขวานจามศีรษะ ก่อนชำแหละร่าง และควักเครื่องในทิ้งทั่วบ้าน ตำรวจระบุคนร้ายพูดจารู้เรื่องรู้ตัวดี ไม่แสดงอาการทางประสาท แต่ต้องตรวจสอบประวัติการรักษากับ รพ.จิตเวช อีกครั้ง

เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (4 ต.ค.) พ.ต.อ.สนอง บุญเกิด ผู้กำกับการ สภ.ประทาย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีสยองคนร้ายฆ่าชำแหละศพ นายไพศาล พาชื่นใจ อายุ 41 ปี ชาว อ.ประทาย พร้อมควักอวัยวะภายในแยกไปทิ้งไว้ภายในบ้าน และนอกบ้าน เลขที่ 9 ม. 6 บ้านดอนมัน ต.โคกกลาง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) ว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังกันออกติดตามตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน จนสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ขณะกำลังหลบหนีอยู่ในพื้นที่ ต.วังไม้แดง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เมื่อคืนนี้ คือ นายบรรจบ หรือนายเฉลิม มะสีผา ชื่อเล่น “เหิม” อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 ม.6 บ้านดอนมัน ต.โคกกลาง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ และเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตาย

จากการสอบปากคำ นายบรรจบ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าชำแหละศพนายไพศาลจริง โดยคืนเกิดเหตุได้มานั่งดื่มสุราด้วยกันที่บ้านของ นายบรรจบ เมื่อเมาได้ที่จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องที่ดิน เนื่องจากเมื่อหลายปีก่อนแม่ของนายบรรจบ ได้นำที่ดินแปลงที่ปลูกบ้านปัจจุบันไปขายให้แก่พ่อของนายไพศาล และซื้อกลับคืนมาแล้ว แต่นายไพศาล ยังเข้าใจว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของพ่อตัวเอง จึงพูดจาขับไล่ นายบรรจบ ออกไปจากที่ดินเพื่อตัวเองจะได้มาสร้างบ้านใหม่แทนที่ สร้างความไม่พอใจให้แก่นายบรรจบ เป็นอย่างมาก

จึงอาศัยช่วงที่ นายไพศาล ลุกเดินไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาน้ำดื่มใช้ขวานจามที่หัวด้านหลัง ก่อนทำการชำแหละผ่าร่างกาย และควักอวัยวะภายในแยกไปทิ้ง ทั้งภายในบ้าน และบริเวณนอกบ้านเนื่องจากโกรธแค้นอย่างมาก จากนั้นได้ขับจักรยานยนต์หลบหนีไปหาญาติในตัวเมืองนครราชสีมา แต่ญาติไม่อยู่จึงขับรถจักรยานยนต์ย้อนกลับเข้ามาในพื้นที่ อ.ประทาย และมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว

พ.ต.อ.สนอง กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาอยู่ในอาการเครียดแต่พูดจารู้เรื่อง รู้ตัวดี ไม่ได้แสดงความผิดปกติทางประสาท หรือป่วยทางจิตแต่อย่างใด ในเรื่องนี้ทางพนักงานสอบสวนจะทำการตรวจสอบประวัติการรักษาโรคกับโรงพยาบาลจิตเวชอีกครั้ง เนื่องจากทราบว่า ผู้ต้องหาได้ไปรับยามากินเป็นประจำ แต่เท่าที่พูดคุยถือว่าเป็นคนปกติ และพนักงานสอบสวนต้องดำเนินคดีตามกฎหมายเหมือนคนปกติทั่วไป ส่วนศาลจะพิจารณาอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล และขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ที่ สภ.ประทาย เพื่อรอดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป