กาญจนบุรี - สืบกาญจนบุรี ตะครุบหนุ่มใหญ่ชาวเชียงรายคาท่ารถ บขส.กาญจน์ พร้อมของกลางฝิ่น 4 กิโลกรัม มูลค่า 8 แสนบาท ขณะลักลอบขนมาจากอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า ชายแดนติดต่อด่านพรมแดนพระเจดีย์สามองค์ อำเภอสังขละบุรี เผยประวัติเคยเจอข้อหาครอบครองยาบ้าในท้องที่ สภ.สังขละบุรีมาแล้ว
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (1 ต.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีการขนฝิ่นจำนวนมากจากอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า ชายแดนติดต่อด่านพรมแดนพระเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี โดยซุกซ่อนไว้ภายในกระเป๋าเป้สะพายสีดำ มากับรถยนต์ตู้โดยสารสายอำเภอสังขละบุรี-กาญจนบุรี ไปลงที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี
หลังจากได้รับรายงานจึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จรินทร์ วัฒนไพรสาณฑ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี ร่วมกับ พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.วันชัย อ่อนละออ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.เจษฎา ปิ่นชูทอง สว.สส.สภ.เมืองกาญจนบุรี พ.ต.ท.พิเชษฐ์พงศ์ แจ้งค้ายคม สวป.สภ.เมืองกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี พร้อมประสาน พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี นำกำลังไปซุ่มโป่งที่สถานีขนส่งจังหวัดกาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่รอจนกระทั่งเวลา 14.30 น. รถยนต์ตู้โดยสารคันหนึ่งได้วิ่งเข้ามาส่งผู้โดยสารภายในสถานีขนส่ง และพบกับชายต้องสงสัยเดินลงมาจากรถโดยสะพายกระเป๋าเป้สีดำลงมาจากรถด้วย จากนั้น พ.ต.อ.พงษกร จึงได้ส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มโป่งอยู่โดยรอบแสดงตัวเข้าจับกุม และตรวจค้น จากการตรวจค้นภายในกระเป๋าสะพายเป้ พบวัตถุต้องสงสัยเป็นก้อนสีดำ แต่ละก้อนพันด้วยพลาสติกใสห่อด้วยถุงอาหารยี่ห้อสามเอส รวมทั้งหมด 4 ถุง
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นฝิ่นน้ำหนักรวมกัน 4 กิโลกรัม เจ้าหน้าที่จึงนำของกลางพร้อมคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวนที่ห้องงานสืบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ทราบชื่อต่อมาคือ นายโชคทวี ขัดชมภู อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 127 ซ.พระรามที่ 2 ซ.15 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร
พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี เปิดเผยว่า สำหรับผู้ต้องหาเดิมทีเป็นชาวจังหวัดเชียงราย แต่ได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในกรุงเทพฯ และมักเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถยนต์โดยสารมาที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้า-ออกระหว่างชายแดนบ้านพระเจดีย์สามองค์-อำเภอพญาตองซู ประเทศพม่าอยู่เป็นประจำ และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขละบุรี จับกุมตัวมาแล้วในข้อหามียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย เหตุเกิดเมื่อประมาณปี 2550 และยังมีคดีรับซื้อของโจรอีกด้วย
สำหรับฝิ่นที่ยึดไว้ได้น้ำหนักรวมกัน 4 กิโลกรัม มูลค่ากิโลกรัมละ 200,000 บาท รวมของกลางมูลค่า 800,000 บาท ซึ่งการจับกุมฝิ่นในครั้งนี้นับว่าเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยจับกุมมาในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะสอบปากคำผู้ต้องหาเพื่อขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีให้ได้ และจะตรวจสอบทรัพย์สินของผู้ต้องหาด้วยว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้าง ซึ่งจะใช้มาตรการการยึดทรัพย์ขั้นเด็ดขาดของผู้ต้องหารายนี้ด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พอจะทราบกลุ่มผู้ร่วมขบวนการบ้างแล้ว แต่ขอปิดเป็นความลับ เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบต่อแนวทางการสืบสวนขยายผล จับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งชาวไทย และพม่า