xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “จุ๊บ ราชคม” ขี้ยาเดนคุกตระเวนทุบกระจกรถลักทรัพย์

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจจับกุมการจับกุมนายเพิ่มยศ หรือจุ๊บ ราชคม อายุ43ปี ขี้ยาเดนคุกก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ลักทรัพย์
รอง ผบก.น.6 แถลงข่าวจับกุม “จุ๊บ ราชคม” ขี้ยาเดนคุกก่อเหตุตระเวนทุบกระจกรถลักทรัพย์ ตรวจสอบพบประวัติติดคุกตั้งแต่อายุ 15 ปี เข้าออกคุกเป็นว่าเล่น สารภาพเพิ่งออกจากคุกมาเดือน มิ.ย.แต่ยังโงหัวไม่ขึ้น ใช้ชีวิตวังวนเดิมก่อเหตุหาเงินซื้อยาเสพ!

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (24 ก.ย.) ที่ สน.ปทุมวัน พ.ต.อ.ฤชากร จรเจวุฒิ รอง ผบก.น.6 พร้อมด้วย พ.ต.ท.พนม เชื้อทอง รอง ผกก.สส.สน.ข่าวการจับกุมนายเพิ่มยศ หรือจุ๊บ ราชคม อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131/59 หมู่ที่ 10 ตำบลบางคูรัด อําภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ผู้ต้องหาในคดีตระเวนทุบกระจกรถยนต์ลักทรัพย์ในท้องที่ สน.ปทุมวัน และสน.พญาไท ได้ของกลางเป็นไขควง กีตาร์เบส 1 ตัว และเงินสดอีกจํานวนหนึ่ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จับกุมนายเพิ่มยศได้ที่บริเวณหลังอาคารจอดรถศูนย์นิสสันปทุมวัน แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน เมื่อวันที่ 23 ก.ย. เวลาประมาณ 00.05 น. เมื่อสอบสวนขยายผลพบว่านายเพิ่มยศได้ก่อเกตุมาแล้ว 10 ครั้ง โดยจะขับขี่จักรยานยนต์ที่ขโมยมาตระเวนก่อเหตที่บริเวณ สน.ปทุมธานี และสน.พญาไท นายเพิ่มยศจะเลือกรถที่จอดอยู่ในที่เปลี่ยวและไม่มีสัญญาณกันขโมย แล้วจะใช้ไขควงที่นําติดตัวมางัดรถ

นายเพิ่มยศให้การรับสารภาพว่า ตนเองติดยาเสพติดประเภทยาไอซ์ เพิ่งออกมาจากเรือนจําเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยติดคุกมาตั้งแต่อายุ 15 ปี ในคดีเสพยาเสพติดครั้งละ 6 เดือนหรือ 9 เดือน เมื่อออกมาจากเรือนจําครั้งล่าสุดตกงานจึงทําให้ต้องตระเวนก่อเหตุเพื่อนําเงินไปใช้จ่ายในชีวิตประจําวัน และซื้อยาไอซ์เสพ

พ.ต.อ.ฤชากรกล่าวว่า ปัญหาลักทรัพย์ทุบกระจกรถยนต์เป็นปัญหาสังคม โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและดูแลประชาชนอย่างเคร่งครัด อยากให้ประชาชนเป็นส่วนหนึ่งของการสอดส่อง ดูแลและจับตาดูคนร้ายที่ก่อเหตุ โดยเฉพาะร้านรับซื้อขายของเก่าควรตรวจสอบผู้ที่มาขายอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการรับซื้อของโจร และที่สําคัญการจอดรถยนต์ในที่สาธารณะนั้นไม่ควรจอดนานหรือจอดในที่เปลี่ยว โดยที่สําคัญไม่ควรนําของมีค่าต่างๆ ไว้ภายในรถเพื่อความปลอดภัยในรถยนต์และทรัพย์สินของประชาชน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และลักทรัพย์โดยทําอันตรายสิ่งกีดกั้นสําหรับคุ้มครอง บุคคลหรือทรัพย์ และทําให้เสียทรัพย์ ก่อนนําตัวส่งพนักงานสอบสวนดําเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น