ฮือซ้ำ ชาวนาเชียงรายทวงเงินจำนำข้าว-พบเมีย ตร.ใหญ่เอี่ยวทำคดีอืด

เชียงราย - ชาวนาเชียงรายลุกฮือทวงเงินค่าจำนำข้าวซ้ำ หลังขนข้าวส่งท่าข้าว-โรงสีแล้วไม่ได้เงินแม้แต่บาทเดียว ล่าสุดพบข้าวถูกขนเข้าท่าข้าวเมียตำรวจทำคดีไม่คืบ ด้าน ผบก.ภ.รับปากเด้ง สวป.แม่ลาว สามีเถ้าแก่ท่าข้าวก่อน ขู่เชือดรอง ผกก.ซ้ำ หากไม่มีหมายจับคนรับซื้อของโจรเพิ่ม

วันนี้ (30 ส.ค.) นายไว้ บุญค้ำ ผู้แทนเกษตรกร อ.แม่ลาว, นายสมนึก วิงวอน ผู้แทนเกษตรกร อ.พาน และนายสุพัฒน์ คิดอ่าน ผู้แทนเกษตรกร อ.ขุนตาล พร้อมด้วยกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจากพื้นที่ อ.เทิง อ.ขุนตาล และ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย รวมประมาณ 250 คน ได้รวมตัวชุมนุมกันที่ศาลากลาง จ.เชียงราย เพื่อเรียกร้องให้ทางจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดแก้ไขปัญหากรณีชาวนาจาก อ.เทิง และ อ.ขุนตาล ที่นำข้าวไปส่งให้ท่าข้าวและโรงสีตามโครงการรับจำนำของรัฐบาล แต่ยังไม่ได้รับเงินจนเกิดความเสียหายคิดเป็นมูลค่า 19,197,462 บาท เป็นข้าวของชาวนา อ.เทิง, ขุนตาล 8,997,462 บาท และ อ.แม่ลาว 10,200,000 บาท ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของโรงสีหลายราย

กลุ่มผู้ชุมนุมได้ยื่นหนังสือต่อ นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย มีเนื้อหาว่า หลังชาวนานำข้าวส่งให้ท่าข้าววิจิตรตรา ซึ่งต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นนิธิผลสหการเกษตร หรือนิฐิผลสหการเกษตร ที่ไปตั้งจุดรับข้าวที่ อ.เทิง 2 จุด และ อ.แม่ลาว 1 จุด อ้างว่าจะนำไปส่งให้กับโรงสีที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำใน จ.เชียงราย แต่จนถึงปัจจุบันเวลาล่วงมากว่า 2 เดือนชาวนาก็ไม่ได้รับเงิน

แม้ทาง สภ.เทิงจะมีการดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชนต่อนายพีร์นิทัศน์ เขื่อนเชียงสา จากท่าข้าววิจิตรา, นายณัชสัณห์ และนางธนัญรัตน์ รัศมิ์ธนหาญ จากโรงสีนิธิผลสหการเกษตรไปแล้ว โดยคดีอยู่ในชั้นอัยการ และผู้ต้องหาถูกคุมขังตามกระบวนการยุติธรรม แต่กลุ่มเกษตรกรทราบว่ามีการนำข้าวที่รับจากชาวนาไปส่งที่ท่าข้าว ก.รุ่งเรือง ซึ่งมีหญิงชื่อ “เจ๊นาย” เป็นเจ้าของและมีสามีเป็นนายตำรวจใหญ่ที่ สภ.แม่ลาว จึงเกรงว่าจะเป็นเหตุทำให้คดีล่าช้า และเกรงว่าจะมีเพียงเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาดูเรื่องนี้

ดังนั้น กลุ่มเกษตรกรจึงเสนอให้ทางจังหวัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจติดตามคดีนี้เป็นกรณีพิเศษ โดยมีผู้ชำนาญด้านอื่นๆ เช่น กรมการค้าภายใน องค์การคลังสินค้า ฯลฯ ร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตรวจเส้นทางข้าวที่นำจากชาวบ้านว่าเก็บไว้ที่ไหน รวมทั้งให้ “เจ๊นาย” ที่รับข้าวไปมาชี้แจง เพราะกลัวไม่ได้รับความยุติธรรม เนื่องจากที่ผ่านมามีการดำเนินคดีเฉพาะที่ สภ.เทิง แต่ที่ สภ.แม่ลาวไม่มีการดำเนินคดีใดๆ

นายไว้กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมที่จะมีต่อผู้ต้องหานั้น เกษตรกรคงไม่เข้าไปก้าวก่าย และพวกเราคงไม่มีแรงที่จะไปเข้าสู่กระบวนการได้ทั้งหมด เพราะต้องทำไร่ทำนาด้วยความยากลำบากอยู่แล้ว จึงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ไป แต่สิ่งที่ชาวนาต้องการมากคือเงินที่สูญเสียไป พร้อมกับข้าว โดยขอให้เจ้าหน้าที่หาวิธีเอาคืนมาโดยไม่ต้องรอให้คดีความสิ้นสุด เพราะคงนานเกินไปและขอให้กระบวนการมีความโปร่งใสด้วย

ต่อมา นายพงษ์ศักดิ์ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องกับคดีทั้ง 2 ท้องที่ได้เข้าชี้แจงต่อประชาชนว่า เห็นใจชาวบ้าน เพราะปัญหาในขณะนี้ไม่ใช่เรื่องการดำเนินคดี หรือเอาผิดผู้ต้องหาเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการขอให้นำเงินกลับคืนไปให้ชาวบ้าน รวมทั้งทราบเส้นทางข้าวว่าได้นำไปไว้ที่ไหนอย่างไร เพื่อที่จะได้นำมาคืนหรือนำมาแก้ไขเป็นเงินให้ชาวบ้านนำไปใช้เป็นต้นทุนในการทำนาในฤดูกาลถัดไปได้

แต่เมื่อเป็นคดีความและชาวบ้านเรียกร้องไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เจ้าหน้าที่ก็ได้ดำเนินการให้แล้ว ส่วนเรื่องการเร่งรัดคดีก็จำเป็นต้องรอบคอบด้วยเช่นกัน

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เทิงแจ้งว่า ได้สรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการไปแล้วเมื่อวันที่ 28 ส.ค. 56 ส่วนสาเหตุที่ สภ.แม่ลาวยังไม่มีการดำเนินคดี เพราะที่ผ่านมาพยายามให้นำเงินมาคืนให้ชาวนาทั้งหมด รวมทั้งกำลังขยายผลไปถึงผู้เกี่ยวข้องอีก 2 รายด้วย เพราะแม้ว่าคดีความจะเดินหน้าถึงชั้นอัยการแล้ว ตามกฎหมายสามารถเรียกทรัพย์สินคืนและเรียกค่าเสียหายเพื่อชดเชยกับชาวบ้านได้เช่นกัน แต่ช่วงนี้หากคดีไม่ถึงที่สุดก็สามารถเจรจากันได้ เพื่อการบรรเทาโทษในอนาคต

ด้าน พล.ต.ต.วันชัยกล่าวว่า นอกจากข้อหาฉ้อโกงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีข้อหารับของโจรเพิ่มเติมอีกด้วย โดยจะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสืบหาเส้นทางของข้าวว่านำไปไว้ ณ จุดใด หรือขายไปแล้วบ้างหรือไม่

สำหรับกรณีของ “เจ๊นาย” ซึ่งเกี่ยวข้องกับ สภ.แม่ลาวนั้นไม่ต้องกังวล ตนจะย้ายสารวัตรปราบปราม (สวป.) สามีของ “เจ๊นาย” ออกจากพื้นที่ไปก่อน ส่วนคดีนั้นใกล้จะดำเนินคดีต่อผู้ต้องหาใหม่อีกอย่างน้อย 4 คน แต่ถ้าหากไม่มีการดำเนินคดีหรือขอหมายจับคนรับซื้อของโจรภายในวันพุธที่ 4 ก.ย. 56 นี้ ตนก็จะย้ายรอง ผกก.สส.สภ.แม่ลาว ที่ดูแลเรื่องนี้ให้ไปช่วยราชการที่ ภ.เชียงรายก่อนเพื่อให้คดีคืบหน้าต่อไป